ยังคงมีให้เห็นเป็นระยะ สำหรับบรรดาเหล่า “สายเปย์” ที่รับบทเป็น “พ่อเจ้าบุญทุ่ม” หวังมัดใจบุคคลที่หมายปอง แต่สุดท้ายกลับถูกหลอก พอรู้ตัวอีกที ก็หมดเงินในกระเป๋าไปแล้วหลายบาท
แต่ไม่ใช่มีแค่หนุ่มเล็กหนุ่มใหญ่เท่านั้น ที่เป็น “สายเปย์” ถูกสาวหลอก ล่าสุดเป็นคิวของ “สาวสายเปย์” ที่ตัวเธอถูกชายหนุ่ม “ดาวติ๊กต๊อก” หลอกให้โอนเงิน จนสูญเงินนับแสนบาท
โดยผู้เสียหาย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กเล่าว่า “#ตามหาคนหาย เบื้องลึกเบื้องหลังคนดังในวงการเสื้อ ovp กับดาวติ๊กต๊อกที่มีของดีๆ ใส่ มีทองใส่ไว้ล่อ...วันนี้เราออกมาระบาย เพราะสุดจะทนแล้ว เหมือนกันกับสิ่งที่เขาทำกับเราทุกอย่างๆ อยากให้ทุกคนรับรู้ว่าชายที่แสนดีในโลกความเป็นจริงมันต่างกันขนาดไหน”
เบื้องต้นฝ่ายหญิง ระบุว่า รู้จักคู่กรณีผ่านติ๊กต๊อก ช่วงเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายชายอยู่ในวงการเสื้อ ovp จากนั้นได้แอดเฟซบุ๊กเข้าไปพูดคุย กระทั่งเห็นว่า เจ้าตัวมีปัญหาถูกโกง จึงชักชวนไปเปิดโรงแรมอยู่ด้วยกัน 2 คืน เพื่อพูดคุยถึงปัญหาต่างๆ
โดยนัดเจอกันวันที่ 6 ส.ค.พร้อมโอนเงินให้อีกฝ่าย 4 หมื่นบาท เนื่องจากฝ่ายชายกำลังทำบ้าน และพอหลังกลับจากโรงแรม จึงเริ่มคบหาแบบจริงๆ จังๆ กับคู่กรณี
หลังจากนั้นคล้อยหลังเพียง 4 วัน ฝ่ายชายร้องขอว่าอยากได้รถ ส่วนตัวยอมช่วยเหลือ โดยโอนเงินไปให้ 7 หมื่นบาท ซึ่งสุดท้ายไม่มีการซื้อรถจริง จากนั้นตนเองได้ย้ายไปอยู่บ้านพ่อแม่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ทำให้ใกล้ชิดกับฝ่ายชายมากขึ้น และซื้อของทุกอย่างให้หมด
กระทั่งช่วงเดือน ก.ย.ฝ่ายชายย้ายมาอาศัยอยู่ด้วยกัน พร้อมพาน้องแวะเวียนมาหาบ่อยครั้ง โดยของกินทุกอย่าง เป็นคนออกให้ทั้งหมด และมีการขอเงิน 3 แสนบาท เพื่อไปซื้อรถ ด้วยความรัก จึงพยายามหาเงินจำนวนดังกล่าวให้ แต่โชคดีที่คนที่บ้านไม่อนุญาต ให้เอาสิ่งของมีค่าไปขาย เพราะกลัวว่าจะทุ่มหมดตัว
จนช่วงเดือน ต.ค.ส่วนตัวเริ่มไม่มีงาน ทำให้เงินที่เก็บไว้เริ่มหมด ฝ่ายชายจึงเก็บของกลับไปอยู่บ้าน พร้อมตำหนิตนเองว่า ทำให้เขาลำบาก ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกกัน แต่ด้วยความเป็นห่วง จึงยังโอนเงินไปให้ฝ่ายชายอีกประมาณ 8 พันบาท และใจอ่อนกลับไปคบกันอีกครั้ง แม้จะจับได้ว่า ฝ่ายชายมีคนอื่น
ล่าสุดช่วงเดือน พ.ย.ฝ่ายชายไปสร้างหนี้สินไว้ แล้วบอกให้ตนเองรับผิดชอบหนี้ก้อนดังกล่าว เมื่อเริ่มไม่โอนเงินให้ฝ่ายชาย ก็เริ่มตีตัวออกห่าง และไปคบหาหญิงสาวคนอื่นแทน
ขณะที่ฝ่ายชาย ชี้แจงว่า ผู้หญิงเป็นฝ่ายที่แอดมาหาก่อนเอง รู้จักกันแค่ 2 วัน มีการนัดไปที่โรงแรมแล้ว โดยตนเองเดินทางไปกับเพื่อนอีก 1 คน กระทั่งอยู่ดีๆ มีการโอนเงินมาให้ 4 หมื่นบาท ส่วนตัวเคยขอเงินบ้าง แต่ไม่ได้บ่อยครั้ง เหมือนที่คู่กรณีกล่าวอ้าง
ส่วนเงินออกรถ 7 หมื่นบาท ที่ฝ่ายหญิงโอนมาให้ ช่วงแรกตนเองต้องการออกรถยนต์ แต่คู่กรณีบังคับให้ออกรถจักรยานยนต์แทน
"ทุกครั้งที่ผมจะออกเงิน เขาจะเป็นคนไปจ่ายก่อนผม และทุกครั้งที่ผมยื่นเงินคืนเขา เขาเองที่เป็นฝ่ายไม่ยอมรับเงิน ส่วนตัวไม่ได้ต้องการแก้ตัวอะไร"