วันที่ 27 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายประเสริฐ พรหมเทศ อายุ 60 ปี ชาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ ได้นำภาพถ่ายหลักฐานการติดต่อทางแอปพลิเคชั่นไลน์และเฟชบุ๊ก กับหญิงสาวที่ใช้ชื่อว่า “สวย” ชาวจังหวัดนครสวรรค์ เข้ามามอบให้ พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สันกำแพง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี โดยอ้างว่าถูกนางพีรพัฒน์ หลอกให้โอนเงินไปกว่า 2 แสนบาท
สำหรับพฤติการณ์ดังกล่าว นางสาว “สวย” ได้ปลอมแปลงเฟซบุ๊ก โดยใช้รูปโปรไฟล์เป็นสาวสวยหน้าตาดี เข้ามาล่อลวงพูดคุยกับ นายประเสริฐ พรหมเทศ โดยอ้างตัวเองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน หรือ ตชด. อยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี เข้ามาพูดคุยกับนายประเสริฐ พรหมเทศ ในเชิงลักษณะชู้สาว เป็นเวลากว่า 2 ปี และอ้างว่าไม่อยากทำงานที่กาญจนบุรี อยากจะลาออกจากงานแล้วไปใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากับนายประเสริฐ พรหมเทศ พร้อมกับอ้างว่ามีปัญหาเรื่องการเงิน แล้วขอความช่วยเหลือจากนายประเสริฐ จำนวนหลายครั้ง ด้านนายประเสริฐ หลงเชื่อโอนเงินให้หลายครั้งเป็นจำนวนเงินรวมกว่า 2 แสนบาท ทั้งที่นายประเสริฐ ไม่เคยพบเจอกับนางสาวสวยเลยแม้แต่ครั้งเดียว
ทั้งนี้ ทำให้นายประเสริฐ พรหมเทศ ได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.สันกำแพง ครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.2563 ที่ผ่านมา และล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สันกำแพง ได้ประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจบก. ปฏิบัติการพิเศษ กก.4 ให้จับกุมตัวนางพีรพัฒน์ งามสง่า อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาได้ที่ กรุงเทพมหานคร ส่งตัวมาให้ร้อยเวร สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
นายประเสริฐ พรหมเทพ กล่าวว่า ได้เล่นเฟซบุ๊กกับหญิงสาวที่ชื่อว่านางสาวสวย ติดต่อพูดคุยกันมาเป็นเวลา 2 ปี โดยไม่เคยได้พบหน้ากันเลย แต่ด้วยความหลงรัก รูปที่ปรากฏทางเฟซบุ๊ก หลังจากนั้นได้มีการแลกไลน์และเบอร์โทรคุยกัน โดยกลอุบายของนางสาวสวย ได้บอกว่าเป็น ตชด.หญิง ในจังหวัดกาญจนบุรี ไม่อยากจะทำงานอยู่ที่เมืองกาญจนบุรีแล้ว อยากมาใช้ชีวิตคู่กับคุณลุงที่เชียงใหม่ พร้อมกับวางแผนการอันแยบยล ให้หลงกลอุบาย โอนเงินให้ไปเป็นหลักแสน เพื่อช่วยเหลือหลายครั้งอ้างว่ากำลังเดือดร้อนทางการเงิน ตนเองได้โอนให้โดยไม่เคยเห็นหน้าและตัวจริง รวมถึงไม่เคยมีการวิดีโอคอลคุยกัน สุดท้ายรู้ตัวถูกหลอก เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่
โดยวันนี้ตนเองได้เดินทาง มาดูตัว ผู้ต้องหา ที่ปลอมแปลงหน้าเฟ.บุ๊ก เห็นหน้าแล้ว ถึงกับสะดุ้ง เป็นคนละคนกันกับหน้าเฟซบุ๊ก เและไม่ได้ทำงาน เป็น ตชด. แต่ทำงานเป็น รปภ. บริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พูดตรงๆ เลยว่าแอบหลงรักมานาน ไม่น่ามาหลอกกัน ใจสลายเลยงานนี้ ยืนยันให้ตำรวจดำเนินคดีให้เข็ดหลาบ ต่อไป
พ.ต.อ.วาชรัตน์ มูลวงษ์ ผกก.สภ.สันกำแพง กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.สันกำแพงได้ประสานไปยังกองบังคับการกองปราบปราม และขออนุมัติหมายจับ และนำกำลังเข้าจับกุมตัวนางพีรพัฒน์ได้ที่บ้านพักในเขตหนองแขม กรุงเทพมหานคร และควบคุมตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.สันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ โดยจะถูกดำเนินคดีข้อหาฉ้อโกงทรัพย์โดย แสดงตนเป็นบุคคลอื่นและจากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหารายนี้ ได้ก่อเหตุกับเหยื่อมาแล้วหลายราย จึงอยากฝากเตือนประชาชน อย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพ ที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการแอบอ้าง หลวกลวงเอาทรัพย์สิน และหากประชาชนท่านที่เคยตกเป็นเหยื่อในลักษณะเดียวกัน ให้เข้าดำเนินการแจ้งความและดูตัวผู้ต้องหาได้ที่ สภ.สันกำแพง