
16 พฤศจิกายน 2564 เมื่อเวลา 09.50 น. การประชุมร่วมรัฐสภา ได้เข้าสู่การพิจารณา ร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ.... ซึ่งเสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ แกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง จำนวน 1.35แสนรายชื่อ ขั้นรับหลักการ โดยนายพริษฐ์ นำเสนอสาระสำคัญ ตอนหนึ่งระบุว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อต้องการรื้อระบอบประยุทธ์ เพื่อสร้างความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย อย่างไรก็ดีในการออกแบบสภาฯให้มี ส.ส.เขต 350 คน และบัญชีรายชื่อ 150 คนนั้น ไม่มีเจตนาปรับระบบเลือกตั้งที่รัฐสภาให้ความเห็นชอบไปก่อนหน้านี้ แต่เนื้อหาของร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจัดทำขึ้นมาก่อน และยินดีให้แก้ไขให้เป็นเหมือนกับฉบับที่รัฐสภาลงมติเห็นชอบแล้ว
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของประชาชน ถือว่าเป็นวัคซีนเร่งด่วนเพื่อแก้ไขระบอบประยุทธ์ ทั้งนี้เนื้อหาไม่ใช่เป็นความพยายามเพื่อเอาชนะทางการเมือง ดังนั้นขอให้สมาชิกรัฐสภาเปิดใจ โดยเนื้อหาที่เสนอไม่ต้องการโจมตีใครในฐานะบุคคล แต่ต้องการรื้อระบบที่ไม่เป็นธรรม ไม่ต้องการให้ประชาชนเสียเปรียบ โดย 1 คนต้องมีสิทธิ์ 1 เสียงเท่ากันเพื่อกำหนดอนาคตประเทศ
"การกระทำของรัฐบาล ที่เป็นระบอบประยุทธ์ คือ สิ่งที่ทำลายระบบที่เป็นกลาง บั่นทอนความเชื่อมั่นของสถาบันต่างๆ ร่างแก้ไข รัฐธรรมนูญ ไม่ต้องการทำลายล้างสถานบันทางการเมืองใด แต่ต้องการคืนศักดิ์ศรีให้ และไม่ต้องการทำลายกลไกตรวจสอบถ่วงดุลรัฐสภา แต่ต้องการให้สภาฯ เป็นความหวังของประชานในการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกันกับศาลรัฐธรรมนูญ และองค์กรอิสระที่ไม่ต้องการทำลาย แต่เพื่อให้ประชาชนเชื่อมั่นในความเป็นกลาง ตรวจสอบรัฐบาลและตรวจสอบทุกฝ่าย” นายพริษฐ์ ชี้แจง
นายพริษฐ์ กล่าวด้วยว่า สำหรับการยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ ไม่ได้ทำให้ข้าราชการขาดทิศทางการทำงาน แต่จะทำให้ข้าราชการมีความยืดหยุ่นแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ รวมถึงพรรคการเมืองมีสิทธิกำหนดนโยบายให้ประชาชนได้ ส่วนการตั้งผู้ตรวจการกองทัพ ไม่ใช่ลดเกียรติของกองทัพ แต่เพื่อพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่ากองทัพมีความเป็นมืออาชีพ ไม่มีการเมืองแทรกแซง
“การรื้อระบอบประยุทธ์ ไม่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หมดอนาคตทางการเมือง แต่ยังกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีที่สง่างามมากขึ้น ภายใต้การเลือกตั้งที่เสรี เป็นธรรม หัวใจสำคัญของร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน คือ สร้างระบบการเมืองที่ไว้วางใจประชาชน ให้มีสิทธิเลือกผู้นำ ได้อย่างเสรี เลือกพรรคที่สามารถกำหนดนโยบายได้ มีการลงโทษพรรคการเมืองหากทำไม่ได้ และให้รัฐสภาร่วมแก้วิกฤตการเมือง ไม่ให้ทหารยึดอำนาจ” นายพริษฐ์ กล่าว
นายพริษฐ์ ชี้แจงทิ้งท้ายว่า ขอให้ไว้วางใจประชาชน โหวตรับหลักการเพื่อสร้างระบบการเมืองที่ไว้วางใจประชาชน แม้ไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เสนอ ขอให้เลือกไว้วางใจประชาชนครั้งเดียว ในการออกเสียงประชามติหากร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านรัฐสภาในวาระสาม หากคิดว่าเลวร้ายหรือแย่ขอให้ไว้วางใจประชาชน ให้คว่ำด้วยเสียงของประชาชน นอกจากนั้นในการอภิปรายตนขอให้หยุดนำข้ออ้างว่ารัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ผ่านการออกเสียงประชามติ 16 ล้านเสียงว่าเป็นเสียงสว่นใหญ่ หากอยากวัดจริงๆ ขอให้รับหลักการ เพื่อดูผลการลงประชามติที่เกิดขึ้น หากเลือกตัดหน้าประชาชน ไม่รับหลักการ การอภิปรายจะถูกบันทึกในประวัติศาสตร์การเมืองไทยไม่ใช่แค่การคัดค้านกลุ่มรีโซลูชั่น แต่คือการไม่ไว้วางใจประชาชนฐานะผู้มีอำนาจสูงสุดใน