สำนักสถิติแห่งชาติของจีน เปิดเผยวันนี้ว่า ราคาบ้านใหม่ลดลงเฉลี่ย 0.2% ในเดือนต.ค.เมื่อเทียบกับเดือน ก.ย.ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ..2558 และราคาขายต่อลดลงใน 64 เมืองใหญ่จากทั้งหมด 70 เมืองที่มีการเก็บข้อมูล
ส่วนการก่อสร้างบ้านใหม่ในเดือน ต.ค. ลดลงอย่างมาก 33.14% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และการก่อสร้างบ้านใหม่ตลอด 10 เดือนที่ผ่านมาลดลง 7.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
แต่นักวิเคราะห์ คาดว่า ความต้องการซื้อบ้านและการก่อสร้างบ้านใหม่ในจีนจะกลับมาเติบโตในระดับปกติภายในสิ้นปีนี้ หรือ ต้นปีหน้า เนื่องจากหน่วยงานกำกับดูแลได้ออกนโยบายเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาดแล้ว
ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีน ที่คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 1 ใน 4 ของมูลค่าเศรษฐกิจทั้งประเทศ เกิดความสั่นสะเทือนอย่างหนักในช่วงหลายเดือนมานี้นับจากบริษัท เอเวอร์แกรนด์ ที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศเผชิญกับความเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้จำนวนมหาศาล บวกกับการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ และการขาดแคลนไฟฟ้าที่ทำให้ต้องมีการปันส่วนไฟฟ้า
อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์เผชิญการตรวจสอบจากทางการจีนอย่างหนักเนื่องจากวิตกต่ออนาคตของบริษัทหลายราย ที่มีภาระหนี้สินมหาศาล และวิกฤตหนี้ดังกล่าวทำให้นักลงทุนต่างชาติบางคนกังวลว่าอาจส่งผลกระทบตลาดเงินโลกตามมา แต่ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หน่วยงานในบางประเทศก็ออกมาคลายความกังวลของตลาดว่า สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในจีนจะไม่ส่งผลกระทบครั้งใหญ่ต่อทั่วโลก เพราะบริษัทเหล่านั้นมีตัวเลขหนี้ในต่างประเทศน้อยมาก