กรณีที่ นายสหชัย เจียรเสริมสิน หรือ เสี่ยโจ้ ปัตตานี ผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ค้าน้ำมันเถื่อน ที่ถูกจับกุมได้ที่ย่านห้วยขวาง ระหว่างหลบหนีคดี เเละนำตัวส่งพนักงานอัยการจังหวัดสงขลา เพื่อฟ้องคดีตามหมายจับศาลจังหวัดสงขลา ที่ 60/2564 ลงวันที่ 19 ก.พ.2564 ในความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงินเเต่พนักงานอัยการ มีคำสั่งไม่ฟ้องคดีโดยมีการปล่อยตัวผู้ต้องหา
ต่อมาพบว่านายสหชัยยังมีคดีค้างเก่าที่ศาลปัตตานี มีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน ในข้อหาปลอมเเปลงเอกสารใช้ดวงตราประทับไม้ปลอมซึ่งศาลออกหมายจำคุกถึงที่สุดเเละให้ออกหมายจับ ซึ่งเมื่อวันที่10 พ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด วันนี้ (11 พ.ย.) พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการจับกุมนายสหชัย ในฐานความตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน เมื่อปี 2558 และมีการนำตัวส่งศาลจ.สงขลา จนต่อมาศาลจังหวัดสงขลา ได้มีความเห็นไม่สั่งฟ้องนั้นตามขั้นตอนเอกสารสำนวนจะถูกส่งกลับมาที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่ามีความเห็นแย้งหรือไม่ ซึ่งเท่าที่ทราบทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีความเห็นแย้งเรื่องที่อัยการสั่งไม่ฟ้อง
“หลังจากนี้ก็ต้องส่งเรื่องต่อให้กับอัยการสูงสุดในการพิจารณาสั่งฟ้อง ส่วนเรื่องเหตุผลของการเห็นแย้ง ต้องให้ทางคณะกรรมการที่เป็นผู้ชี้แจงในประเด็นดังกล่าว”
พล.ต.ท. จิรภพ ยังกล่าวถึงประเด็นที่ นายสหชัย ยังมีคดีค้างเก่าที่ศาลปัตตานี มีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน แต่กลับมีการอายัดตัว ต้องบอกว่าภายหลังที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวเสี่ยโจ้ ได้ในช่วงประมาณตี2-3 วันศุกร์ที่ 5 พ.ย.64 ตามหมายศาลจ.สงขลา ในฐานความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน
จากนั้นตำรวจกองปราบได้ตรวจสอบในระบบหมายจับค้างเก่า ไม่พบว่าเสี่ยโจ้มีหมายจับที่อื่นอีก แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังทำงานเต็มที่ และทราบว่าเสี่ยโจ้เคยมีคดีที่เคยตัดสินไปแล้วที่ จ.ปัตตานี
“ได้สอบถามไปยังศาลจังหวัดปัตตานี ให้ตรวจสอบหมายจับของเสี่ยโจ้ แต่ทางศาลแจ้งว่าไม่มีหมายจับในระบบ ทำให้ตำรวจกองปราบต้องนำตัวเสี่ยโจ้ส่งศาลจ.สงขลา ในช่วงค่ำของวันศุกร์ที่5พ.ย. ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่ได้นิ่งนอนใจทำเอกสารไปยังศาลจังหวัดปัตตานี เพื่อให้ตรวจสอบเอกสารหมายจับให้ จนในที่สุดทางศาลปัตตานีได้หาหมายจับคดีที่มีพิพากษาจำคุก 1 ปี 9 เดือน จนเจอและส่งให้ทางกองปราบ ในช่วงเย็นของวันเสาร์ ที่ 6 พ.ย. จนทำไปสู่การเข้าค้นบ้านพักของเสี่ยโจ้ ในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 7 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ก็ไม่ทันการแล้ว เพราะเสี่ยไม่ได้อยู่ที่บ้านพัก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมากที่ผู้ต้องหาจะหลบหนีออกนอกประเทศ ในการติดตามจับกุมตัวก็จะยากเพิ่มมาขึ้นไปด้วย”
พล.ต.ท.จิรภพ บอกอีกว่า เรื่องนี้ตนไม่แน่ใจว่าเกิดความผิดพลาดในส่วนไหน ในส่วนธุรการหรือส่วนอื่น จึงไม่มีข้อมูลดังกล่าวในระบบของตำรวจและศาล ซึ่งเรื่องนี้คงต้องไปสอบถามข้อเท็จจริงจากทางศาลปัตตานีอีกครั้ง