ตร.นครบาล รวบหนุ่มจอมตุ๋นขายอุปกรณ์บิ๊กไบค์ในตำนาน

     วันนี้ (10 พ.ย.) กองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีการจับกุม นายภานุพงศ์ คนเที่ยง อายุ 29 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 558/2564 ลงวันที่ 9 พ.ย. 64 ข้อหา “ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริต หรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา” ภายในบ้านใน ต.ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์

     การจับกุมมีขึ้นหลังผู้ต้องหามีพฤติกรรมสร้างและใช้เฟซบุ๊ก ชื่อบัญชีต่างๆ เท่าที่สามารถจดจำได้ประกอบด้วย ชื่อบัญชี “ ทีโอเอ ช๊อป “ ชื่อบัญชี “ Wittenberg Tonae ” ชื่อบัญชี “ Up Red ” ชื่อบัญชี “ Wear Street ” ชื่อบัญชี “ Even Both ” ชื่อบัญชี Buddy Ya และชื่อบัญชีเฟสบุ๊กอื่นๆ อีกหลายชื่อบัญชี โพสต์ขายสินค้าประเภทถุงมือ เสื้อการ์ด เสื้อผ้า กระเป๋ายี่ห้อ TRIUMPH ในเพจกลุ่มคนขับรถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบก์ TRIUMPH แทบทุกกลุ่ม

     ตลอดจนกลุ่มขายสินค้าออนไลน์ต่างๆ อีกมากมาย เช่น กลุ่ม Triumph ของแต่งอะไหล่แท้ มือ 1-2 ,กลุ่ม Triumph ไทยแลนด์ มือ 2, กลุ่ม อะไหล่ Triumph, กลุ่ม Triumph สมาคม, กลุ่ม Triumph ลาดพร้าว อะไหล่มือสอง, กลุ่ม Triumph 2 ล้อ, กลุ่ม Burberry Market Thailand, กลุ่ม Dior Market Thailand ฯลฯ โดยก่อเหตุมาตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2559 จนถึงปัจจุบัน จนมีชื่อติดอยู่ในแบล็กลิสต์ บัญชีคนโกงต่างๆ มากมาย 
 

     จากการตรวจสอบผู้ต้องหาจะใช้วิธการคัดลอกสินค้าของผู้ขายอื่นที่มีการประกาศโพสต์ขายในกลุ่ม นำไปโพสต์ขายในกลุ่มเฟซบุ๊กต่างๆ ข้างต้น เมื่อมีผู้เสียหายสนใจสั่งซื้อ ผู้ต้องหาก็ทำทีแนะนำสินค้า จนผู้เสียหายหลงเชื่อตกลงสั่งซื้อ หลังจากนั้นก็จะทำทีเป็นขอที่อยู่จัดส่งไว้เพื่อให้ผู้เสียหายมั่นใจว่าผู้ต้องหาจะส่งของที่สั่งให้แน่นอน ก่อนที่จะให้เลขที่บัญชีธนาคารของตน หรือบัญชีธนาคารของผู้อื่นเพื่อให้ผู้เสียหายโอนเงินตามราคาค่าสินค้าให้

     พร้อมกับบอกผู้เสียหายว่า เมื่อทำการโอนเงินค้าสินค้าเรียบร้อยแล้วให้ผู้เสียหายส่งสลิปหลักฐานการโอนเงินแจ้งให้คนร้ายทราบด้วย เมื่อผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงินและส่งสลิปหลักฐานการโอนเงินให้ตนร้ายเรียบร้อยแล้ว ผู้ต้องหาก็นิ่งไปไม่ยอมส่งสินค้าให้ รายไหนทวงถามหรือด่าว่าก็จะบล็อกการสนทนาไป จากการสอบสวนผู้ต้องหารับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง
 

     ที่ผ่านมามีรายได้จากการก่อเหตุเฉลี่ยวันละประมาณ 3,000 บาท รวมรายได้ที่ทำมาตั้งแต่ประมาณปี 59 กว่า 6 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้เสียหายรับสารภาพว่าเงินได้มาจากการก่อเหตุส่วนใหญ่หมดไปกับการนำมาซื้อยาเสพติดมาเสพ รวมทั้งนำไปเล่นการพนันออนไลน์ เบื้องต้นนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป