อินเดียลดภาษีน้ำมัน บรรเทาราคาพุ่งสูง

รัฐบาลอินเดียประกาศเมื่อวานว่า ภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันเบนซินจะลดลง 5 รูปีหรือ 2 บาท และน้ำมันดีเซลลดลง 10 รูปีหรือ 4 บาท นอกจากนี้อย่างน้อย 10 รัฐที่อยู่ภายใต้การบริหารของพรรคภาราติยะ ชนะตะ ของนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี หรือ พรรคที่เป็นพันธมิตรของเขา ประกาศเพิ่มเติมว่าจะลดภาษีน้ำมันในพื้นที่อีกลิตรละ 7 รูปี หรือ 3 บาท

แหล่งข่าว เปิดเผยว่า มาตรการของรัฐบาลกลางจะทำให้สูญเสียรายได้จากภาษีระหว่าง 5.5-6 แสนล้านรูปีหรือราว 2.2-2.4 แสนล้านบาท

การปรับลดภาษีมีขึ้นก่อนถึงเทศกาล ดิวาลี ของชาวฮินดู ที่จะมีการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น การตัดสินใจนี้เป็นผลมาจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้นทำให้ราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดีเซลพุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยรัฐบาลคาดหวังว่าการลดภาษีจะช่วยลดภาระของผู้บริโภค และลดภาระของผู้ผลิตและเกษตรกร ซึ่งจะส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเดินหน้าต่อเนื่อง

ในช่วงหลายเดือนนี้ยอดการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอินเดียเพิ่มสูงขึ้น หลังจากรัฐบาลผ่อนคลายข้อจำกัดการเดินทางและการประกอบกิจการของธุรกิจต่างๆ เมื่อการระบาดของโควิด-19 ชะลอตัวลง 

ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงขึ้นอย่างมากในปีนี้ โดยเฉพาะอินเดียได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะนำเข้าน้ำมันมากถึงเกือบ 85% ของความต้องการ และเป็นประเทศที่นำเข้าน้ำมันมากเป็นอันดับ 3 ของโลก ราคาน้ำมันในตลาดโลกพุ่งสูงถึง 86.40 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือน ต.ค.2557 และขณะนี้ปรับตัวลดลงอยูที่ราว 82.5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ส่วนในอินเดีย ที่ประชากรส่วนใหญ่มีรายได้ไม่ถึง 2 ดอลลาร์ต่อวัน กลับต้องใช้น้ำมันเบนซินราคาลิตรละ 110 รูปีหรือ 44 บาท และน้ำมันดีเซล 98.5 รูปีหรือ 40 บาท