svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

คุมตัวอดีตหลวงตาโหดทำแผนฆ่าพระวัดเดียวกัน สารภาพวางแผน 2 เดือน

31 ตุลาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตร.คุมตัวอดีตหลวงตาวัย 72 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุฆ่าโหดเพื่อนพระวัดเดียวกันฟัน-สับยับ 27 แผลไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยยอมรับมีการวางแผนไว้ล่วงหน้า อ้างโกรธแค้นผู้มักต่อว่าพูดจาถากถางเรื่องการแบ่งอาหารจากการบิณฑบาตต่อหน้าญาติโยมและด่าหยาบคาย

31 ตุลาคม 2564 ความคืบหน้าพระลุน สุ่มมาตย์ อายุ 72 ปี พระวัดป่าภูปอ ต.นาตาล อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ ถูกฆ่าโหดมรณภาพบริเวณบันไดลานหินทางลงกุฏิภายในวัด บริเวณศีรษะ ใบหน้า แขน และข้อมือถูกของมีคมฟัน 27 แผล ชาวบ้านพบศพเมื่อช่วงเช้าวันที่ 29 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา โดยเบื้องต้นสอบถามพระลูกวัดด้วยกันอ้างว่า เห็นชายสองคนเข้ามาทวงหนี้กับพระลุน 3 หมื่นบาท ก่อนที่ตำรวจจะเค้นสอบพระรูปดังกล่าว กระทั่งยอมรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าเพื่อนพระด้วยกัน

คุมตัวอดีตหลวงตาโหดทำแผนฆ่าพระวัดเดียวกัน สารภาพวางแผน 2 เดือน

เมื่อเวลา 17.30 น. พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ติดตามคดีพร้อมนำทีมชุดสืบสวนสภ.ท่าคันโท ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ และชุดสืบสวนภาค 4 ร่วมกับนายพลานุภาพ ธพรคำแพทย์ นายอำเภอท่าคันโท และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองคุมตัวอดีตพระกรกช หรือนายกรกช เสนาฤทธิ์ อายุ 72 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ จ232 /2564 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุภายในวัดป่าภูปอ

 

หลังจากรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่าพระลุน โดยก่อนคุมตัวพาไปทำแผนเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระสังฆาธิการมาทำการลาสิกขาก่อน ท่ามกลางชาวบ้านที่มาดูเหตุการณ์จำนวนมาก และกำลังตำรวจและฝ่ายปกครองกว่า 50 นาย
คุมตัวอดีตหลวงตาโหดทำแผนฆ่าพระวัดเดียวกัน สารภาพวางแผน 2 เดือน

จุดแรกเจ้าหน้าที่คุมตัวไปชี้จุดบริเวณหน้าห้องน้ำห่างจากกุฏิพระลุน ที่เสียชีวิต 20 เมตร ช่วงเวลา 05.00 น.วันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้เดินถือมีดอีโต้เข้าไปฟันที่บริเวณท้ายทอยพระลุน ซึ่งกำลังซักจีวร 2 ครั้ง ก่อนที่พระลุนจะวิ่งหนี พยายามหลบเข้าไปในกุฎิของตนเอง แต่เข้าไม่ได้เพราะก่อนที่จะไปซักจีวรได้คล้องกุญแจไว้

 

จากนั้นพระลุน ได้พยามวิ่งหนีไปและตะโกนขอความช่วยเหลือ กระทั่งอดีตพระกรกช ตามมาทันที่บริเวณทางขึ้นบันไดลานหิน ก่อนใช้มีดอีโต้ฟันที่ศีรษะซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ซึ่งพระลุน ก็ยังพยามหนีจนมาถึงขั้นบันได ซึ่งเป็นจุดที่พบศพเสียชีวิต

 

แต่อดีตพระกรกชก็ยังตามาฟันซ้ำไปอีกหลายครั้ง จากนั้นอดีตพระกรกช ได้นำมีดอีโต้ไปทิ้งไว้หลังโขดหินแล้วนำจอบมาสับไปที่ศีรษะซ้ำอีก 3-4 ครั้ง และใช้บริเวณสันจอบตีซ้ำอีก 2 ครั้งจนกะโหลกยุบและแน่นิ่งไป

คุมตัวอดีตหลวงตาโหดทำแผนฆ่าพระวัดเดียวกัน สารภาพวางแผน 2 เดือน

จากนั้นอดีตพระกรกช ได้เดินไปที่กฏิของตนเอง นำกุญแจมาล็อคคล้องหน้าประตูไว้ เพื่อหลอกว่าถูกคนร้ายที่เป็นชายสองคนมาทวงเงินกับพระลุนล็อกไว้จึงออกมาไม่ได้

 

จากนั้นได้นำขวดเหล้าขาวเปล่า 2 ขวดที่เก็บมาจากสวนยางของชาวบ้านขณะออกไปบิณฑบาต และนำขวดเหล้าขาวที่ซื้อมาจากร้านในตัวอำเภอท่าคันโท มาวางไว้บนแคร่ไม้หน้ากุฏิพระลุน และหน้ากุฏิของตนเอง เพื่อจัดฉากว่ามีชายสองคนมาทวงเงินกับพระลุน แล้วมีการนั่งดื่มเหล้ากันก่อนที่จะทำร้ายกัน และกลายเป็นศพ

 

ทั้งนี้ในส่วนบริเวณจุดที่นำมีดอีโต้และจอบไปทิ้งนั้น เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำตัวไปชี้จุดได้ เนื่องจากมีชาวบ้านหลายร้อยคนมามุงดูเหตุการณ์ จึงเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ก่อนคุมตัวกลับไปที่โรงพัก

คุมตัวอดีตหลวงตาโหดทำแผนฆ่าพระวัดเดียวกัน สารภาพวางแผน 2 เดือน
 

พล.ต.ต.วรวัฒน์ มะลิ รักษาราชการแทนผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า มีความโกรธแค้นผู้ตายอย่างมาก โดยอ้างว่าผู้ตายมักต่อว่าและพูดจาถากถางต่อหน้าญาติโยมที่มาทำบุญ โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งอาหารจากการบิณฑบาต พูดเสียดสีว่าตนเองไม่ได้ออกบิณฑบาตแต่กลับแบ่งเอาอาหารไปมากคนบิณฑบาต จนมีปากเสียงทะเลาะกันบ่อยครั้ง

 

นอกจากนี้ผู้ต้องหายังอ้างอีกว่าเคยถูกพระลุน ดุด่าหยาบคายหลายครั้ง จึงเก็บความแค้นไว้ในใจเรื่อยมา ก่อนที่ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจึงคิดวางแผน โดยเริ่มจากการเก็บขวดเหล้าเปล่า และซื้อเหล้า จัดเตรียมมีดเตรียม เพื่อที่จะก่อเหตุ โดยอาศัยจังหวัดเช้ามืด ขณะที่พระลุนกำลังซักจีวร เพื่อเตรียมตัวที่จะกลับไปเยี่ยมบ้าน หลังจากออกพรรษา

 

ซึ่งหลังก่อเหตุได้ได้เตรียมคำพูดไว้บอกเจ้าหน้าที่ไว้ว่ามีชายสองคนมาทวงหนี้พระลุนและฆ่ากันเสียชีวิต อย่างไรก็ตามหลังจากทำแผน เจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ท่าคันโท ดำเนินคดี โดยแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อน

คุมตัวอดีตหลวงตาโหดทำแผนฆ่าพระวัดเดียวกัน สารภาพวางแผน 2 เดือน

ภาพ/ข่าว : จักรพงษ์ ระวิวรรณ 

logoline