นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนอิสระ ที่ลี้ภัยอยู่ในประเทศสหรัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Jom Petchpradab" ว่า "พรรคเพื่อไทย" ควรจะเปลี่ยนเป็น "พรรคพวกชินวัตร" มากกว่า หากเป็นไปตามที่สื่อบางค่ายวิเคราะห์ ก็น่าจะถึงเวลาที่ "พรรคเพื่อไทย" ควรจะเปลี่ยนชื่อพรรคใหม่เป็น "พรรคพวกชินวัตร" ไปเลย จะได้หมดเรื่อง หมดข้อกังขา กระจ่างแจ้งกันไปเลย
แสดงว่ายังไม่เข็ดหลาบกับการเล่นการเมืองแบบวงศาคณาญาติ เหมือนอย่างที่พันธมิตรฯ หรือ กปปส.เคยต่อต้านขับไล่ จนบ้านแตก คนในครอบครัวแต่ละคน ต้องมีอันเป็นไป อยู่ในแผ่นดินบ้านเกิดตัวเองไม่ได้ เล่นการเมืองแบบนี้ พรรคการเมืองพรรคนี้จะใช้ความชอบธรรมตรงไหน ไปกล่าวหา ตรวจสอบทหารที่เอาพี่เอาน้อง เอาคนในครอบครัวมาทุจริตโกงกินบ้านเมืองอยู่เวลานี้
ถึงว่านักการเมืองที่มีคุณภาพ มีอุดมการณ์หลายต่อหลายคนในพรรคนี้จึงอยู่ในสภาพไร้ค่า ไร้ความหมาย ทำอะไรกันไม่ค่อยได้ เลยต้องหนีหายไปทีละคนสองคน จนเกือบไม่เหลือไว้เป็นเสาหลัก ย้ำยันหลักการประชาธิปไตยที่พรรคเชิดชูเป็นหนักเป็นหนาอีกต่อไป
ยุทธศาสตร์ทางการเมืองของพรรคนี้ยังคงชูนโยบาย ปากท้อง ฟื้นเศรษฐกิจเป็นหลักชัยสำคัญ ไม่ผิดนักหรอก แต่จะพลาดอย่างมหันต์ เพราะตลอด 10 หรือ 20 กว่าปีที่ผ่านมา วิกฤติการเมืองที่ต่อเนื่องยาวนานในสังคมไทย ได้สร้างสำนึกใหม่ให้กับคนไทยส่วนมากแล้ว
เศรษฐกิจจะดีไปได้อย่างไร เมื่อทุนใหญ่ยังผูกขาดทุกอย่างในประเทศนี้ หรือชัยชนะทางการเมืองของเพื่อไทย เพื่อหวังพื้นที่ในทุนผูกขาดอยู่แล้วในประเทศนี้หรืออย่างไร หรือหากเศรษฐกิจกลับมาดีขึ้นจริงๆ จะมีหลักประกันอะไรว่าเครือข่ายราชสำนักฯ ซึ่งเป็นทุนผูกขาดรายใหญ่ หรือความไม่สมประสงค์ ระหว่างทุนผูกขาด รวมทั้งกองทัพด้วย จะไม่นำไปสู่การสร้างวิกฤติให้เกิดกับบ้านเมืองเพื่อจัดสรร ปันส่วนอำนาจและผลประโยชน์กันใหม่
“คุณทักษิณ ชินวัตร แม้จะมีความฉลาดหลักแหลมมีวิสัยทัศน์ในด้านเศรษฐกิจ แต่ในด้านการเมือง คุณทักษิณ ไม่เคยเปลี่ยน ยังคงใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือทางการเมือง เพื่ออำนาจและพวกพ้องตัวเองอยู่เหมือนเดิม”
นี่ไม่ต้องพูดถึงว่า ช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา ขณะที่ประชาชนเด็กเยาวชน ต่อสู้ด้วยชีวิตเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตย บาดเจ็บ ล้มตาย ติดคุกกันเป็นร้อยเป็นพัน แล้วว่าที่ แคนดิเดตหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่โผล่ชื่อกันออกมาแต่ละคน อยู่ตรงไหนในหน้าประวัติศาสตร์ทางการเมืองครั้งสำคัญนี้