สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีน เปิดเผยวันนี้ว่า มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP ประจำไตรมาส 3 ระหว่างเดือน ก.ค.-ก.ย. ขยายตัว 4.9% ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว และลดลงจาก 7.9% ในไตรมาส 2 ของปีนี้
โฆษกสำนักงานระบุว่า เศรษฐกิจภายในประเทศโดยรวมยังคงอยู่ในช่วงการฟื้นตัวต่อเนื่องตลอด 3 ไตรมาส แต่มีความไม่แน่นนอนจากภายนอก และการฟื้นตัวภายในประเทศก็ยังไม่มีเสถียรภาพ
สื่อรายงานว่า ตัวเลข GDP ไตรมาสล่าสุดต่ำกว่าผลสำรวจของรอยเตอร์ ที่พบว่า นักวิเคราะห์คาดว่า GDP จะขยายตัว 5.2% การฟื้นตัวของจีนกำลังอ่อนแรงด้วยปัจจัยวิกฤตขาดแคลนพลังงาน ปัญหาคอขวดของซัพพลายเชน การผลิตของโรงงานชะลอลง การบริโภคลดลง และภาคอสังหาริมทรัพย์ชะลอตัวเนื่องจากนโยบายจัดระเบียบจากรัฐบาล นอกจากนี้ยังประสบการระบาดของโควิด-19 อย่างประปราย
นักวิเคราะห์คาดว่า อัตรา GDP จะยังชะลอตัวในช่วงอีกหลายเดือนข้างหน้าต่อไป และคาดว่ารัฐบาลจะออกมาตรการใหม่ๆเพื่อกระตุ้นการเติบโต รวมถึง การเสริมสภาพคล่องในตลาดธนาคาร เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และผ่อนคลายข้อบังคับด้านนโยบายเกี่ยวกับสินเชื่อและอสังหาริมทรัพย์
อย่างไรก็ตาม อี้ กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางของจีน คาดว่า เศรษฐกิจจีนตลอดทั้งปีจะยังเติบโตถึง 8%