แหล่งข่าว 2 คนในกระทรวงกลาโหมสหรัฐเปิดเผยว่า เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ได้พุ่งชนวัตถุใต้น้ำในทะเลจีนใต้เมื่อวันเสาร์ ( 2 ตุลาคม )
ตามคำแถลงของกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่หลายนายบนเรือ " ยูเอสเอส คอนเน็คติกัต " ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุครั้งนี้ แต่ไม่มีใครที่ได้รับบาดเจ็บในระดับที่คุกคามต่อชีวิต และก็ไม่ชัดเจนว่าเรือดำน้ำชั้น Seawolf ลำนี้ ไปชนเข้ากับอะไรในขณะที่ดำอยู่ใต้น้ำ
แถลงการณ์บอกว่า “เรือดำน้ำยังคงอยู่ในสภาพที่ปลอดภัยและมั่นคง หน่วยขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ของเรือ " ยูเอสเอส คอนเน็คติกัต " ไม่ได้รับผลกระทบและยังคงปฏิบัติการได้อย่างเต็มที่” พร้อมกับบอกว่า " จะมีการสอบสวนเรื่องนี้ " แต่กองทัพเรือสหรัฐฯ ไม่ได้ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในทะเลจีนใต้ เพียงแต่ระบุว่าเกิดขึ้นในน่านน้ำสากลในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเท่านั้น
อุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนเพิ่มสูงขึ้นจากการที่กองทัพจีนละเมิดน่านฟ้าของไต้หวัน ที่เรียกกันว่า " เขต บูรณาการป้องกันภัยทางอากาศของไต้หวัน " หรือ ADIZ
" ยูเอสเอส คอนเน็คติกัต " ปฏิบัติการอยู่ในน่านน้ำรอบ ๆ ทะเลจีนใต้ ในขณะที่สหรัฐฯ และพันธมิตรทำการซ้อมรบครั้งสำคัญในภูมิภาคนี้ ที่เรียกกันว่า Carrier Strike Group 21 การซ้อมรบนี้มีเรือจากสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย แคนาดา และเนเธอร์แลนด์เข้าร่วม รวมถึงเรือบรรทุกเครื่องบิน 3 ลำ
เมื่อวันเสาร์ เครื่องบินทหารของจีน 39 ลำ รวมทั้งเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินขนส่งทางทหาร ได้รุกล้ำ ADIZ ของไต้หวัน ทำให้กองทัพอากาศไต้หวันต้องส่งเครื่องบินไอพ่นขึ้นไปเกาะติด และเปิดระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ แต่อีก 2 วันต่อมา จีนส่งเครื่องบิน 56 ลำไปยัง ADIZ ของไต้หวันภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดนับตั้งแต่ไต้หวันได้เริ่มเผยแพร่ตัวเลขดังกล่าวต่อสาธารณะเมื่อปีที่แล้ว