คนจีนเริ่มไม่ค่อยจะเชื่อ " จีน-สหรัฐคืนดี " ด้านความสัมพันธ์

หลังจากที่สหรัฐออกอาละวาดเอากับจีนมาช่วงระยะเวลาหนึ่ง ปัจจุบันคนจีนหลายคนมองสหรัฐในแง่ร้าย และไม่เชื่อว่า 2 ประเทศจะกลับมาคืนดีกันได้  

ประชาชนในกรุงปักกิ่งแสดงความรู้สึกหลากหลายเกี่ยวกับโอกาสในความสัมพันธ์จีนและสหรัฐฯ หลังจากที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของทั้งสองฝ่าย กลับมานั่งโต๊ะหารือร่วมกันเพื่อหาทางนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

อย่างชาวปักกิ่งคนหนึ่งบอกว่าเขาหวังว่าความสัมพันธ์ทวิภาคีจะดีขึ้นหลังการหารือที่สวิตเซอร์แลนด์ เพราะ "จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชน การค้า และเศรษฐกิจ" ขณะผู้เกษียณอายุในกรุงปักกิ่งคนหนึ่งบอกถึงการหารือของสองผู้นำว่า "การพบกันยังดีกว่าการไม่พบกันเสมอ แต่ฉันไม่มั่นใจว่าจะบรรลุข้อตกลงใด ๆ ได้ เพราะสหรัฐฯ แสดงจุดยืนที่เป็นปรปักษ์ต่อการก้าวขึ้นมาของจีน ปัญหาระหว่างสหรัฐฯ และจีนนั้นยากที่จะแก้ไข"

ขณะที่อีกคนบอกว่า “ฉันไม่มีความประทับใจที่ดีเกี่ยวกับสหรัฐฯ ฉันรู้สึกว่าสหรัฐฯ เอาแต่ใจและก้าวร้าว”

หยาง เจียฉือ เจ้าหน้าที่อาวุโสจีนได้พบกับแจ็ค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่โรงแรมสนามบินในเมืองซูริก สวิตเซอร์แลนด์เมื่อวันพุธ ( 6 ตุลาคม ) เพื่อมุ่งปรับปรุงการสื่อสารระหว่างทั้งสองประเทศ และทั้งสองฝ่ายก็ตกลงที่จะดำเนินการเพื่อนำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศกลับมาสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

ครั้งนี้นับเป็นการเผชิญหน้ากันครั้งแรกของทั้งสองคน นับตั้งแต่ที่มีการแสดงความไม่พอใจต่อกันอย่างเปิดเผยในการประชุมที่อลาสก้าเมื่อเดือนมีนาคม  ในช่วงท้ายของวัน ทั้งปักกิ่งและวอชิงตันบอกว่าการเจรจาซึ่งกินเวลานาน 6 ชั่วโมง เป็นไปอย่างสร้างสรรค์และตรงไปตรงมา ฝ่ายสหรัฐบอกว่าน้ำเสียงในการพูดคุย แตกต่างจากที่อลาสก้าอย่างมาก

ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างครอบคลุม และในเชิงลึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสองประเทศ ปัญหาระหว่างประเทศและภูมิภาคที่เป็นความกังวลร่วมกัน สื่อของทางการจีนบอกว่าการประชุมดำเนินไปอย่างที่เอื้อต่อการสร้างความเข้าใจซึ่งกันและกัน

ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะดำเนินการเพื่อนำฉันทามติที่บรรลุโดยผู้นำของสองประเทศเมื่อวันที่ 10 กันยายนในการหารือทางโทรศัพท์มาปฏิบัติ รวมถึงปรับปรุงการสื่อสารเชิงกลยุทธ์ การจัดการกับความเห็นที่แตกต่างอย่างเหมาะสม หลีกเลี่ยงความขัดแย้งและการเผชิญหน้า แสวงหาผลประโยชน์ร่วมกันและผลลัพธ์ที่ทั้งสองฝ่ายต่างก็ประโยชน์ และร่วมมือกันผลักดันความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ให้กลับมาสู่แนวทางที่ถูกต้องเพื่อการพัฒนาที่มั่นคง

นายหยาง เจียฉือ สมาชิกคณะกรมการเมืองของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน และผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการต่างประเทศของคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน  ชี้ให้เห็นว่าไม่ว่าจีนหรือสหรัฐฯ ต่างก็สามารถจัดการความสัมพันธ์ของตนได้อย่างเหมาะสม ยึดถือผลประโยชน์พื้นฐานของทั้งสองประเทศและประชาชนของตน และอนาคตของโลก เขาบอกว่าความร่วมมือระหว่างจีนและสหรัฐฯ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศและโลก ในขณะที่การเผชิญหน้าจะสร้างความเสียหายอย่างร้ายแรงแก่ทุกคน

ด้านเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ระบุว่า ฝ่ายสหรัฐฯ ควรมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีที่เป็นประโยชน์ร่วมกันและต่างฝ่ายต่างก็ได้  และมีความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับนโยบายภายในประเทศและต่างประเทศและความตั้งใจเชิงกลยุทธ์ของจีน โดยเน้นว่าจีนไม่เห็นด้วยกับคำจำกัดความในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ว่าเป็น "การแข่งขัน"

หยางบอกว่า จีนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับคำพูดเชิงบวกของประธานาธิบดีไบเดนเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของจีน-สหรัฐฯ เมื่อเร็วๆ นี้  และสังเกตว่าสหรัฐฯ บอกว่าไม่มีเจตนาที่จะขัดขวางการพัฒนาของจีนหรือเริ่มต้น "สงครามเย็นครั้งใหม่"  จีนหวังว่าฝ่ายสหรัฐฯ จะสามารถนำนโยบายที่มีเหตุผลและปฏิบัติได้มาใช้กับจีน ทำงานร่วมกับจีนเพื่อเคารพผลประโยชน์หลักและข้อกังวลหลักของกันและกัน และปฏิบัติตามเส้นทางของการเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือแบบต่างฝ่ายต่างก็ได้ และยังได้ชี้แจงถึงจุดยืนที่เคร่งครัดของจีนในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับไต้หวัน ฮ่องกง ซินเจียง ทิเบต ปัญหาเขตแดนทางทะเลและสิทธิมนุษยชน และเรียกร้องให้ฝ่ายสหรัฐฯ เคารพอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ด้านการพัฒนาของจีนอย่างจริงจัง และหยุดใช้ประเด็นดังกล่าวเพื่อแทรกแซงกิจการภายในของจีน หลังซัลลิแวนแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นที่ขัดแย้งกัน เช่น การกระทำของจีนในทะเลจีนใต้ ตลอดจนสิทธิมนุษยชนและจุดยืนของปักกิ่งต่อฮ่องกง ซินเจียง และไต้หวัน

ขณะที่ฝ่ายสหรัฐฯ ยืนยันเรื่องการปฏิบัติตามนโยบายจีนเดียว

ทั้งสองฝ่ายยังได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและประเด็นปัญหาทั่วไปที่เกี่ยวข้อง และตกลงที่จะรักษาการเจรจาและการสื่อสารในประเด็นสำคัญอย่างสม่ำเสมอ

ขณะที่ฝ่ายสหรัฐฯ บอกว่าทั้งสองฝ่ายตกลงกันในหลักการที่จะให้ประธานา  ธิบดีทั้งสองประเทศจัดการหารือเสมือนจริงก่อนสิ้นปีนี้  โดยก่อนหน้านี้ คาดกันว่าผู้นำทั้งสองอาจจะมาพบกันที่การประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ที่อิตาลีในเดือนตุลาคม แต่สี จิ้นผิง ผู้นำจีนไม่ได้ออกจากประเทศนับตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 เมื่อต้นปีที่แล้ว