7 ตุลาคม 2564 ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ ติดตามแผนรับมือบริหารจัดการน้ำในพื้นที่จ.นครศรีธรรมราช
โดยทันทีที่มาถึงนายกฯได้เดินทางไปสักการะพระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองนครศรีธรรมราช โดยรถยนต์อัลพาร์ด สีดำ ทะเบียน กอ 5817 นครศรีธรรมราช ซึ่งในการต้อนรับนอกจากนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หน้าส่วนราชการ ตลอดจนสส.พรรคพลังประชารัฐแล้ว สิ่งที่สังเกตเห็นชัดเจนมีนายชินวรณ์ บุณยเกียรติ และ นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ควงคู่กันมาด้วย ซึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่ามีนัยยะทางการเมืองด้วยหรือไม่ เพราะสำหรับพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีส.ส.ทั้งหมด8 คน สังกัดพรรคพลังประชารัฐ4คน และพรรคประชาธิปัตย์4คน
จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยังบริเวณคลองหน้าเมือง ต.ปากนคร เพื่อตรวจแผนบริหารน้ำในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยมีนายกเทศมนตรี นายกณพ เกตุชาติ เป็นผู้รายงานสถานการณ์ พร้อมอธิบายแผนการจัดน้ำของปีนี้
ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำให้ประเมินแผนจัดการน้ำที่วางไว้ว่ามีศักยภาพขนาดไหน รวมถึงความเป็นไปได้ในการขุดลอกขยายคลองให้กว้างขึ้นซึ่งเรื่องนี้ต้องเน้นการทำความเข้าใจกับประชาชนถึงประโยชน์ที่จะได้รับ โดยต้องมียุทธศาสตร์การจัดการน้ำที่ชัดเจน โดยในระหว่างนั้นมีประชาชนถือป้ายเขียนข้อความให้กำลังใจ เช่น รักลุงตู่ ,ลุงตู่อยู่ต่อ ,พร้อมส่งเสียงนายกสู้ๆ ก่อนขึ้นรถนายกรัฐมนตรีได้เดินไปทักทายประชาชนที่มาให้กำลังใจพร้อมส่งสัญลักษณ์ไอเลิฟอยู่และเดินทักทายกับประชาชนอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะขึ้นรถไปสำรวจเส้นทางระบายน้ำที่บริเวณถนนพุทธภูมิ ตำบลโพธิ์เสด็จ โดยจุดนี้มีการตั้งเต็นท์พร้อมกับมีมวลชนมาให้การต้อนรับด้วย
ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้บอกกับชาวบ้านที่มารอว่า การเดินทางลงมาวันนี้เพื่อเตรียมความพร้อมการจัดการน้ำที่ปีนี้น้ำอาจจะมีปริมาณมากขึ้น หากมีฝนตกติดต่อกัน 3 วัน 3 คืน ขอให้เตรียมตัวได้เลยอะไรต้องเก็บขึ้นก่อนหลัง อย่าให้ทรัพย์สินสูญหาย ขอให้ประชาชนเตรียมตัวด้วยจะได้ช่วยกันลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
และแม้ว่าหากเลี่ยงปัญหาน้ำท่วมไม่ได้ ก็อย่าไปท้อเพราะในหลายพื้นที่ก็เดือดร้อนเหมือนกัน เช่นเดียวกับประเทศที่ทุกวันนี้ก็ต้องเผชิญกับปัญหาทั้งโควิด19 ทั้งน้ำท่วมหลายพื้นที่ในภาคอีสานและภาคเหนือ รัฐบาลก็พยายามช่วยเต็มที่ซึ่งก็เชื่อว่าปัญหาน้ำท่วมหนักจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยเดิมอีก
โดยระหว่างการพบปะประชาชนพล.อ.ประยุทธ์ หยอดคำหวาน “รักจังฮู้ รักจังฮู้ เพราะคิดถึงจึงมาหา" ซึ่งก็ได้รับเสียงเฮตอบรับจากประชาชนอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะร่วมปลูกต้นศรีมหาโพธิ์ ซึ่งเป็นต้นไม้สำคัญตามคติความเชื่อของชาวพุทธ
จากนั้นพลเอกประยุทธ์ เดินทางต่อไปยังศูนย์ดิจิทัลชุมชน ตำบลมะม่วงสองต้น อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมมอบทุนการศึกษาให้นักเรียน
โดยนายกฯพูดถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลวนปัจจุบันมีความสำคัญด้านการบริหารจัดการหรือแม้แต่การขายสินค้าออนไลน์ก็เป็นระบบดิจิทีลทั้งสิ้น และขณะนี้มีการพัฒนาระบบดิจิตอลเป็นอันดับต้นๆของอาเซียน ตอนนี้ประเทศกำลังเดินหน้าสู่ระบบ 5G เพื่อให้รวดเร็วยิ่งขึ้นและมีความจุในการส่งต่อข้อมูล ทำให้อนาคตลูกหลานในวันข้างหน้าสะดวกสยายยิ่งขึ้น
โดยวันนี้โลกเปลี่ยนไปด้วยการเรียนรู้ผ่านศูนย์ดิจิทัล หลังจากนี้เราจะพลิกโฉมประเทศไทยอย่างไรให้พ้นจากรายได้ปานกลางไปสู่รายได้สูง ลดปัญหาความยากจน รายครัวเรือนให้ได้ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอย่างเต็มที่มาหลายปี
ในช่วงท้ายนายกรัฐมนตรี ระบุว่านครศรีธรรมราช ไม่ใช่ไม่มีศักยภาพ มีศักยภาพเยอะแยะไปหมด สิ่งสำคัญที่สุดคือความรักความสามัคคี คนใต้เป็นคนที่รักใครรักจริง จริงใจ และซื่อสัตย์ จงรักภักดี ต่อชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์ ซึ่งบ่อยครั้งที่ลงมาจังหวัดนครศรีธรรมราชก็ประทับใจเช่นเดียวกับวันนี้โดยไม่อยากให้มีการแบ่งแยก แบ่งฝ่าย เพราะเราคือเราที่จะรักสามัคคีเดินหน้าไปด้วยกัน ร่วมกันพลิกโฉมประเทศไทยไปพร้อมกัน พร้อมกับน้ำว่า นึกอะไรไม่ออกตอนเช้าขอให้ลองฟังเพลงชาติตั้งแต่ต้นจนจบ จะเข้าใจความหมายของเพลงชาติคืออะไร
พร้อมกันนี้นายกฯยังได้ขอเสียงปรบมือ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับตนเองและคณะทั้งหมดที่จะทำงานให้ประชาชนให้ดีที่สุด โดยทุกอย่างต้องใช้เวลา และคิดว่าอีก5ปีจากนี้ทุกอย่างจะต้องดีขึ้น ซึ่งหลังจากภารกิจสำเร็จเสร็จสิ้นก็เดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
ข่าว โดย:
สุพิชฌาย์ รัตนะ เนชั่นทีวี
ภาพโดย
จรูญ ทองนวล