โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ธนกร วังบุญคงชนะ ชี้แจงว่า วันนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบ การรักษาระดับการจ้างงาน ในธุรกิจ SMEs ที่เสนอโดยกระทรวงแรงงาน และผ่านความเห็นชอบ เป็นมติจากการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบศ.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธาน เมื่อวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา
โดยรัฐบาลจ่ายเงินอุดหนุนให้กับนายจ้างภาคเอกชนที่อยู่ในระบบประกันสังคม 3,000 บาท ต่อคนต่อเดือนเป็นระยะเวลา 3 เดือน โดยจ่ายให้นายจ้างในระบบประกันสังคม ที่มีลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน จำนวน 480,122 กิจการ ผู้ประกันตน 5,040,176 คน ช่วยผู้ประกอบการให้รักษาระดับการจ้างงาน ตลอดจนสร้างความแข็งแรงให้แก่ธุรกิจ
เงื่อนไขโครงการส่งเสริมและรักษาระดับการจ้างงานในธุรกิจ SMEs
1.ผู้เข้าร่วมโครงการ เป็น นายจ้างภาคเอกชน ที่มีอยู่ในระบบประกันสังคม มีการจ้างงานลูกจ้างสัญชาติไทยไม่เกิน 200 คน และส่งเงินสมทบประกันสังคมมาตรา 33 ณ 16 ตุลาคม 2564 เพื่อเข้าร่วมโครงการในเดือนตุลาคม 2564 และรับเงินอุดหนุนในเดือนพฤศจิกายน 2564 ถึง มกราคม 2565
2.รัฐจ่ายเงินอุดหนุนเพื่อส่งเสริมและรักษาการจ้างงานผ่านนายจ้าง ในอัตราการจ่าย 3,000 บาท/ เดือน/ ลูกจ้างสัญชาติไทย 1 คน ระยะเวลา 3 เดือน ส่วนเงินอุดหนุน จะคำนวณตามยอดการจ้างจริงของทุกเดือน โดยพิจารณาจากจำนวนลูกจ้างที่นำส่งเงินสมทบประกันสังคม
3.การจ่ายเงินอุดหนุน จะเป็นการจ่ายรายเดือนให้แก่นายจ้างตามยอด ที่ได้รับตามข้อ 2 ตลอดโครงการฯ นับตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ
4.นายจ้างจะต้องรักษาระดับการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 95% ในระหว่างเข้าร่วมโครงการฯ หากต่ำกว่า 95% จะไม่ได้รับเงินอุดหนุนในเดือนนั้น ๆ
5.กรณีนายจ้าง มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นจากยอดการจ้างงาน ณ วันเริ่มโครงการ : รับเงินอุดหนุนเพิ่มตามจำนวนการจ้างงานจริง