5 ตุลาคม 2564 พนักงานจ้างตามภารกิจและพนักงานจ้างทั่วไป พร้อมทั้งพนักงานจ้างเหมาบริการจำนวน 14 คน ที่ทางเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ไม่ได้ต่อสัญญาจ้างให้ รวมทั้งญาติพี่น้อง ได้เดินหน้าบุกร้องผู้ว่าราชการจังหวัด ให้ช่วยเหลือเพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากถูกเลิกจ้างแบบกะทันหันไม่แจ้งล่วงหน้า ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด ท้องถิ่นจังหวัด และ ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ก็ได้มารับเรื่องจากผู้ที่มาร้องเรียน
โดยนายธัชกร หัตถาธยากูร ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า ภายหลังรับเรื่องจากผู้ร้องทางจังหวัดก็จะได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอน ซึ่งในส่วนของจังหวัดก็มีบทบาทในการกำกับดูแลการปฏิบัติงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ให้ดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมายที่กำหนด ก็จะได้ตรวจสอบว่าการที่ทางเทศบาลไม่ต่อสัญญาจ้างให้กับพนักงานจ้างทั้ง 14 คนนั้นเป็นไปตามระเบียบกฎหมายว่าด้วยการบริหารท้องถิ่นหรือไม่ ซึ่งก็จะได้ประสานทางเทศบาลเพื่อชี้แจงกรณีดังกล่าวภายใน 3 วัน โดยจะต้องให้เกิดความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ด้านนายสกล ไกรรณภูมิ นายกเทศมนตรีเมืองบุรีรัมย์ ก็ได้ออกมาชี้แจงกรณีที่พนักงานหรือลูกจ้างประท้วงว่าถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรมว่า ตามหลักการบริหารของเทศบาลก็แบ่งออกเป็น 3 แท่ง คือ ฝ่ายสภาที่ทำหน้าที่ดูแลพี่น้องประชาชนลงพื้นที่แก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ฝ่ายข้าราชการประจำ คือ ปลัด รองปลัด ผอ.กอง หัวหน้าส่วน พนักงาน เจ้าหน้าที่และลูกจ้างต่างๆ ซึ่งตามกรอบระยะเวลาฝ่ายสภาก็มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 4 ปี กรอบลูกจ้างก็ระยะเวลาในการทำงาน 1 ปีซึ่งทุกคนที่เข้ามาสมัครทำงานก็ทราบระเบียบอยู่แล้ว ในส่วนแท่งบริหารของตำแหน่งนายกเทศมนตรี คือ การขับเคลื่อนนโยบายที่ได้แถลงต่อสภาไว้
ดังนั้นคนที่เข้ามาทำงานเป็นพนักงานจ้างเหมาหรือพนักงานจ้างตามภารกิจ ก็จะต้องทราบอยู่แล้วว่าสัญญาจ้างปีต่อปี ซึ่งการที่ไม่ได้ต่อสัญญาจ้างทั้ง 14 คนนั้นก็เป็นไปตามกรอบระยะเวลาและระเบียบที่กำหนด ซึ่งทั้งสำนักงานเทศบาลมีบุคลากรมากกว่า 700 คน การที่ไม่ต่อสัญญาจ้างในบางตำแหน่ง ก็เพื่อเป็นการปรับเปลี่ยนตามความจำเป็นเหมาะสมให้สอดคล้องกับการบริหารงาน ยืนยันว่าไม่ได้มีการกลั่นแกล้งแต่อย่างใด
โดย - สุรชัย พิรักษา