"แฟชั่นทิพย์" ของ D&G ซื้อได้แต่ใส่ไม่ได้

ดอลเช่แอนด์กาบาน่า (Dolce & Gabbana) แฟชั่นเฮ้าส์สุดหรูสัญชาติอิตาลี เปิดตัว คอลเลคชั่นหรู "โกเลจิโอเน่ เจเนซี่" (Collezione Genesi) ที่มีทั้งดิจิทัลและที่สวมใส่ได้จริงตลอดจนเครื่องประดับมูลค่า 5.7 ล้านดอลลาร์ ส่วนที่อลังการสะท้านสายตา และแพงที่สุดคือสูทสีเขียวแวววับที่ถูกประมูลไปในราคา 1,199,916.01 ดอลลาร์ โดยบริษัทอี-คอมเมิร์ซ "Boson Protocol" ในลอนดอน โดยได้ไปเป็น "ออริจินัล ดิจิทัล ไฟล์" และทีมงาน D&G จะใช้เวลา 1 ปี ในการรังสรรค์ชุดนี้ให้สวมใส่ได้ในชีวิตจริง ที่ต้องใช้ผ้าไหม 100% ประดับด้วยงานปัก 72 ชิ้น ที่มีทั้งแก้วมูราโน่ และคริสตัล สวารอฟสกี้ และยังมีไอเทมที่น่าสนใจอย่าง "มงกุฎ" ราคา 340,700 ดอลลาร์ด้วย

การเปิดตัวคอลเลคชั่นใหม่นี้ ยังทำให้ D&G เป็นหนึ่งในแฟชั่นเฮาส์แห่งแรกๆ ที่ใช้การซื้อขายในรูปแบบ NFT (Non-Fungible Token) ซึ่งหมายถึงสินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่อาจทำซ้ำหรือคัดลอกได้ เป็นงานชิ้นเดียวในโลกที่ซื้อขายด้วยสกุลเงินดิจิทัลคริปโต เช่น ETH หรืออื่นๆ ซึ่งการเปลี่ยนลิขสิทธิ์ทางปัญญามาเป็น NFT เรียกว่า "การมินท์" (Mint) ส่วนผู้เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ก็ไม่ต่างจากผู้ครอบครองทิพย์เพราะจับต้องไม่ได้ 

คอลเลคชั่น "โกเลจิโอเน่ เจเนซี่" ออกแบบโดย "โดเมนิโก ดอลเช่" หนึ่งในดีไซเนอร์ผู้ก่อตั้งแบรนด์ และมีทั้งหมด 9 ชิ้น ในจำนวนนี้มีอยู่ 5 ชิ้น ที่สามารถตัดเย็บเพื่อสวมใส่ได้จริง คือเดรส 2 ชุด สูท 1 ชุด และมงกุฎ 2 ชิ้น ผู้ที่ได้ครอบครองจะได้รับประสบการณ์หลายอย่าง เช่น การไปเยี่ยมชม design studios ของ D&G ส่วนผู้หญิงก็เดรสสีทองที่ขายไปในราคา 767,261.04 ดอลลาร์ และเดรสสีเงินราคา 641,113.52 ดอลลาร์