วันนี้ (5 ตุลาคม 2564) เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันสุดดีใจ หลังราคาผลผลิตปาล์มน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอดปีนี้ โดยขณะนี้ราคาอยู่ที่กิโลกรัมละประมาณ 8 บาทเศษ สร้างความดีใจให้แก่เกษตรกรเป็นอย่างมาก เพราะถือเป็นพืชเศรษฐกิจหลักสำคัญที่ราคาค่อนข้างดีอยู่ขณะนี้ ซึ่งแตกต่างจากราคายางพาราที่ขณะนี้ก็ยังตกต่ำเหลือกิโลกรัมละ 40 บาทเศษ ไม่ถึง 50 บาท
นายธวัช จิตรชวาล เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ต.บางหมาก อ.กันตัง จ.ตรัง กล่าวว่า ตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมาราคาปาล์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 5 บาทกว่า นานๆ จะขายได้ราคา 6 บาท จากการเก็บรวมรวบข้อมูลตั้งแต่ มกราคมถึงกันยายน จะอยู่ที่ราคาเฉลี่ยที่ 6.38 บาท ต่อกิโลกรัม โดยปัจจุบันราคาปาล์มเกรดพีเมี่ยม เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 20% อยู่ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท แต่ 18% อยู่ที่ประมาณ 8 - 8.20 บาท
ซึ่งถือว่าขณะนี้เป็นเวลาทองของเกษตรกรชาวสวนปาล์ม โดยเหตุผลที่ทำให้ราคาปาล์มสูงขึ้นมาจากสถานการณ์ของโควิด-19 ทำให้ผลผลิตปาล์มน้ำมันในประเทศเพื่อนบ้าน และประเทศใกล้เคียงชะงัก ตัดและส่งออกไม่ได้ ซึ่งจากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้ผลผลิตจากไทยสามารถส่งออกไปประเทศจีน และประเทศอินเดีย ได้มากขึ้น และสถานการณ์ปาล์มในประเทศที่ผลผลิตมีแค่พอใช้ ไม่มาก ทำให้มีจุดแข็งเกิดขึ้นในตลาดปาล์มของไทยประกอบกับก่อนหน้านี้ชาวสวนปาล์มก็มีการผลักดันให้รัฐบาลแก้ไขและช่วยเหลือชาวสวนปาล์มในหลายเรื่อง เช่น เรื่องการประกันราคาปาล์ม การนำน้ำมันปาล์มไปใช้ในโรงไฟฟ้า หรือผลิตเป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น รวมทั้งติดตั้งมิเตอร์วัดปริมาณน้ำมันดิบในทุกโรงงาน เพื่อป้องกันลักลอบการนำเข้า เมื่อการป้องกันลักลอบการนำเข้าน้ำมันเถื่อนได้ผล ประกอบกับผลผลิตปาล์มในประเทศไทยมีแค่เพียงพอดี หรือปริมาณน้อย จึงส่งผลให้ผลิตปาล์มและความต้องการใช้ปาล์มในประเทศไทยเกิดความสมดุล ราคาจึงดีขึ้นตามลำดับ
โดยคาดว่าหากราคาจะปรับขึ้นหลังจากนี้ก็คงจะขึ้นไม่มาก เพราะเท่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คือ ราคา 8 บาทกว่าต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าสูงอยู่แล้ว แม้จะมีความสมเหตุสมผลของราคาก็ตาม แต่ในอนาคตคงจะมีปัจจัยอื่นเข้ามาเสริม แต่ตนยังเชื่อว่าราคานี้จะอยู่ไปจนถึงสิ้นปีนี้หรือไม่ก็ถึงปีหน้า จนกว่าสถานการณ์ต่างๆ ทั่วโลกจะเปลี่ยนแปลงกลับมาเป็นปกติ ก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าราคาจะเป็นอย่างไร แต่ก็หวั่นมาตรการรัฐที่เตรียมจะปรับลดการใช้น้ำมันบี 10 ซึ่งทำจากปาล์มน้ำมัน มาเป็นน้ำมันบี 6 จะทำให้กระทบชาวสวน
โดยเฉพาะการที่กลุ่มประเทศยุโรปประกาศว่า ในปี 2023 จะมีการบังคับใช้น้ำมันยูโรไฟส์ คือ น้ำมันที่ไม่มีโบโอดีเซลผสมอยู่เลย ซึ่งจะมีผลกระทบมาถึงเครื่องยนต์ต่างๆ ที่ต้องผลิตเพื่อรองรับการใช้น้ำมันชนิดนี้ด้วย โดยหากประเทศไทยไม่ยอมทำตาม ก็อาจจะถูกกลุ่มประเทศยุโรปกลั่นแกล้งได้ เหมือนอย่างเช่นที่เคยเจอปัญหามาแล้ว ทั้งเรื่องการทำประมง หรือการใช้แรงงานต่างด้าว
ทางด้านนางสาวสายฤทัย นวลแก้ว อายุ 28 ปี เจ้าของลานเท ในพื้นที่ ต.บางหมาก อ.กันตัง กล่าวว่า วันนี้ราคาปาล์มใหญ่กิโลกรัมละ 8 บาทเศษ ส่วนปาล์มเล็กราคา 7.9 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่ดีมากในรอบหลายๆ ปีที่ผ่านมา จนขณะนี้มาถึงกิโลกรัมละ 8 บาท ในช่วงราคาดีลานรับซื้อปาล์มก็แย่งกันซื้อ แต่อย่างไรต้องยึดตามราคาโรงงานปาล์มเป็นหลักภาพ / ข่าว โดย :
คนิตา สีตอง จ.ตรัง