ศบค.ลดช่วงเคอร์ฟิว-ยืดเวลาร้านอาหาร
ศบค.เคาะขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินต่ออีก 2 เดือน คลายล็อกกิจการเพิ่ม ปรับเวลาเคอร์ฟิวเป็น 4 ทุ่มถึงตี 4 ห้าง-ร้านอาหาร-ร้านสะดวกซื้อเปิดได้ถึง 3 ทุ่ม
วันนี้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะ ผอ.ศบค. เป็นประธานการประชุม ครั้งที่ 15/2564 (ผ่านระบบ Video Conference) ณ ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ ได้สรุปมีมติประชุมดังนี้ เห็นชอบขยายระยะเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรถึง 30 พฤศจิกายน นี้ ลดระยะเวลาห้ามออกนอกเคหสถานเป็น 22.00-04.00 น. และให้เปิดร้านเสริมสวย นวด/สปา สถานเสริมความงาม โรงภาพยนตร์ เล่นดนตรีในร้านอาหารได้ตามปกติ เริ่ม 1 ต.ค. นี้
ศบค.ไฟเขียวลดเคอร์ฟิว4 ทุ่ม- ตี4 ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก 2 เดือน
ตร.แจงยังบังคับใช้กม.เหมือนเดิม หากยกเลิก“เคอร์ฟิว”
ศบค. จ่อเคาะคลายล็อก 10 กิจการ ขยายเวลาเปิดห้าง-ร้านสะดวกซื้อ-ตลาด
1.เห็นชอบการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 เริ่ม 1 ต.ค.
เปิดกิจการ/กิจกรรม
- ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และเด็กก่อนวัยเรียน
- ห้องสมุด
- พิพิธภัณฑ์
- ศูนย์การเรียนรู้
- ร้านทำเล็บ
- ร้านสัก
- สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ (นวด สปา)
- กีฬาในร่ม
- โรงภาพยนตร์
- การเล่นดนตรีในร้านอาหาร
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้ลดเวลาห้ามออกจากเคหสถาน เป็น 22.00 -04.00 น. อย่างน้อย 15 วัน รวมถึงขยายเวลาสำหรับกิจการ-กิจกรรม เปิดบริการได้ถึง 21.00 น. ได้แก่ ศูนย์การค้า ร้านสะดวกซื้อ กีฬากลางแจ้งหรือในร่มเป็นที่โล่ง กีฬากลางแจ้งมีผู้ชมได้ ร้อยละ 25
ปชป. เชียร์เลิกเคอร์ฟิว ช่วย "ผู้ประกอบการรายย่อย"
"อนุทิน" ย้ำ พ.ร.ก.คุมโรคติดต่อ มีอำนาจเท่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน สั่งเคอร์ฟิวได้
2. การปรับมาตรการสำหรับผู้เดินทางเข้าราชอาณาจักร
- โดยปรับลดระยะเวลาในการกักกันสำหรับผู้มีเอกสารวัคซีนโควิด-19 ครบ เหลือ 7 วัน ในส่วนผู้ที่ยังไม่มีเอกสารวัคซีน ให้กักตัว ตั้งแต่ 10 -14 วัน สำหรับการเดินทางเข้าประเทศทางอากาศกักตัว 7 วัน ทางน้ำและทางบก กักตัว 10 -14 วัน อนุญาตให้ทำกิจกรรมในสถานที่กักกันฯ ตามเงื่อนไขที่กำหนด
- เปิดพื้นที่นำร่องการท่องเที่ยว เพิ่มเติม ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม ได้แก่ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เขาหลัก เกาะยาว จ.พังงา และ เกาะพีพี เกาะไหง ไร่เลย์ คลองม่วง ทับแขก จ.กระบี่ และแนวทางเปิดพื้นที่เพิ่มเติม 10 จังหวัด เริ่ม 1 พฤศจิกายน 2564 ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จ.กระบี่ จ.พังงา (ทั้งจังหวัด) จ.ประจวบคีรีขันธ์ (หัวหิน หนองแก) จ.เพชรบุรี (ชะอำ) จ.ชลบุรี (พัทยา บางละมุง จอมเทียน บางเสร่) จ.ระนอง เกาะพยาม จ.เชียงใหม่ (อ. เมือง แม่ริม แม่แตง ดอยเต่า จ.เลย (เชียงคาน) และ จ.บุรีรัมย์ (เมือง)
-