ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง กล่าวสุนทรพจน์ผ่านการบันทึกวิดีโอล่วงหน้าที่เผยแพร่ในการประชุมประจำปีของสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติในนครนิวยอร์กของสหรัฐฯเมื่อวันอังคารว่า จีนจะเพิ่มการสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาในการพัฒนาพลังงานสะอาดที่ลดการปล่อยคาร์บอน จะไม่สร้างโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินแห่งใหม่ในต่างประเทศอีกต่อไป
แม้เขาไม่ได้ให้รายละเอียด แต่การตัดสินใจนี้จะช่วยจำกัดการขยายโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินในหลายประเทศกำลังพัฒนาที่อยู่ในโครงการหนึ่งแถบ หนึ่งเส้นเส้นทางของจีน ซึ่งจะให้เงินสนับสนุนการสร้างเส้นทางรถไฟ ถนน ท่าเรือ และโรงไฟฟ้าพลังถ่านในหลายประเทศกำลังพัฒนา และการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นการส่งสารสำคัญก่อนการประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลกหรือ COP26 ของยูเอ็นที่จะจัดขึ้นในเมืองกลาสโกว์ของสกอตแลนด์ในสิ้นเดือนหน้า
ปัจจุบันจีนเป็นประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และพึ่งพาพลังงานจากถ่านหินอย่างมาก แต่ในช่วงครึ่งปีแรกของปีนี้จีนไม่ได้ให้เงินสนับสนุนโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินใดๆเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
ผู้นำจีนย้ำคำสัญญาที่ให้ไว้ในการประชุมยูเอ็นเมื่อปีที่แล้วว่า จีนจะมีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดก่อนปี 2030 และบรรลุเป้าหมายการปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ หรือ การรักษาสมดุลปริมาณการปล่อยและการกำจัดคาร์บอนได้เท่ากันก่อนปี 2060
จอห์น เคร์รี ทูตพิเศษด้านปัญหาโลกร้อนของสหรัฐฯ และอโลค ชาร์มา รัฐมนตรีอังกฤษที่จะเป็นประธานการประชุม COP26 แสดงความยินดีกับคำสัญญาจากผู้นำจีน และนักเคลื่อนไหวเรื่องโลกร้อน ชื่นชมว่าคำสัญญาจากจีนเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญแต่ขึ้นอยู่กับว่าจะมีผลลัพธ์อย่างแท้จริงเมื่อใด
ก่อนหน้านี้องค์กรไม่แสวงผลกำไรเผยแพร่ข้อมูลในปีนี้ว่า ธนาคารกลางของจีนเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนรายเดียวที่ใหญ่ที่สุดแก่โครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังถ่านหินต่างๆด้วยเงิน 35,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่ทั่วโลกบรรลุความตกลงปารีสเมื่อปี 2558