22 กันยายน 2564 การฉีดวัคซีนสูตรไขว้ ระหว่าง แอสตร้าเซนเนก้า กับ ไฟเซอร์ จะเป็นการฉีดวัคซีนไขว้สูตรใหม่ คาดว่าจะเริ่มใช้ในเดือนตุลาคมนี้ เพราะจะมีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ประมาณเดือนละ 10 ล้านโดสจนถึงสิ้นปี
วัคซีนไขว้สูตร แอสตร้าเซนเนก้า กับ ไฟเซอร์ นั้น เมื่อวันที่ 10 สิงหาคมที่ผ่าน องค์การอนามัยโลก (WHO) ไฟเขียวสูตรฉีดวัคซีนแบบผสม เข็มแรกเป็นแอ
สตร้าเซนเนก้า ส่วนเข็ม 2 เป็นวัคซีน mRNA โดยรับรองให้ใช้เฉพาะกรณีวัคซีนมีอย่างจำกัด และยังมีผลการวิจัยในต่างประเทศรองรับ และต่างประเทศให้การยอมรับ แต่ยังต้องมีการติดตามประสิทธิผลของวัคซีน
ล่าสุด ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊ก "Siriraj Institute of Clinical Research" อัพเดตผลการศึกษาการฉีดวัคซีนไขว้ เทียบการฉีดด้วยวัคซีนชนิดเดียวกัน ระบุว่า..
จากผลการศึกษาวิจัยโดยศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล สรุปการฉีดวัคซีนได้ว่า
การใช้วัคซีน ซิโนแวค เป็นเข็มแรก แล้วตามด้วย แอสตร้าเซนเนก้า หรือ ไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2 สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี การฉีดวัคซีน แอสตร้าเซเนก้า เป็นเข็มแรกควรตามด้วยวัคซีน ไฟเซอร์ เป็นเข็มที่ 2
การวัดเป็นผล anti-RBD IgG วัดโดยเครื่อง Abbott และรายงานเป็นหน่วยมาตรฐาน BAU/mL ส่วนผลการวัดแบบ PRNT50 จะมีการรายงานต่อไป
นอกจากนี้ผลการศึกษายังไม่มีปัญหาเรื่องอาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน เข็มที่หนึ่งและเข็มที่สอง
ในระยะเวลาห่างกันประมาณ 4 สัปดาห์ ควรมีการศึกษาประสิทธิภาพและประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อในผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิดเพื่อยืนยันภูมิคุ้มกันจากการศึกษานี้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงสาธารณสุข ได้เห็นชอบสูตรการฉีดวัคซีนโควิดในประเทศไทยตามคำแนะนำมีทั้งหมด 3 สูตร ดังนี้
ขอบคุณข้อมูล : ฐานเศรษฐกิจ