เกสท์เฮาส์​เชียงใหม่ ฉีดวัคซีน​รับเปิดเมือง

เมื่อวันที่20กันยายน​ 2564  หลังจากที่จังหวัดเชียงใหม่ได้ขับเคลื่อนโครงการชาร์มมิ่งเชียงใหม่ เพื่อเตรียมเปิดเมือง ในวันที่1 ตุลาคม 2564 ตามนโยบายของรัฐ ล่าสุด ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ได้กระจายวัคซีนมาให้กลุ่มผู้ประกอบการ​ที่พักเกสท์เฮาส์​ ในพื้นที่​รอบคูเมืองเชียงใหม่​ นำร่องโดยชุมชนล่ามช้าง ที่มีผู้ประกอบการ​เกสท์เฮาส์​ไม่ต่ำกว่า 100 ราย เข้ารับการฉีดวัคซีน​ไวรัส​โควิด-19 เข็มแรก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับ ผู้ประกอบการ​เกสท์เฮาส์​และพนักงาน​ รวมถึงแรงงานในภาคที่เกี่ยวเนื่องรวมแล้ว 500 คน เข้ารับการฉีดวัคซีน​ โดยทั้งหมดจะได้รับวัคซีน​สูตร​ไขว้ตามนโยบาย​ของกระทรวง​สาณารณสุข

นายวีระวิทย์ แสงจักร ประธานชุมชนล่ามช้าง กล่าวว่า จากการเสนอแผนชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ (Charming Chiangmai) ที่จะมีการเปิดในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ถ้าหากในภาคการท่องเที่ยวยังไม่ได้รับวัคซีน จะไม่สามารถเปิดได้เลย ทำให้มีการเสนอการฉีดวัคซีนให้ภาคการท่องเที่ยวภายในโซนคูเมืองด้านในก่อน จำนวนทั้งสิ้น 13 ชุมชน เพื่อให้สามารถเปิดโซนดังกล่าวได้ก่อน โดยชุมชนล่ามช้างเป็นชุมชนนำร่อง และหลังจากนั้นก็จะมีการทยอยรับให้ครบทั้ง 12 ชุมชน โดยทางชุมชนล่ามช้างไม่มีปัญหาในเรื่องการเตรียมพร้อม ทั้งในส่วนของร้านอาการ , ร้านกาแฟ ร้านนวด ร้านเช่ารถ ร้านซักรีด และที่พัก ต่างมีความพร้อมทั้งหมด นอกจากนี้ยังได้ให้ทางผู้ประกอบการในชุมชนทั้งหมดไปสมัครอยู่ในระบบ SHA หรือ SHA PLUS เพื่อให้ได้มาตรฐานของสาธารสุข และ ททท. เพื่อพร้อมรับนักท่องเที่ยว

ส่วนการเป็น Blue Zone ในตอนแรกทางจังหวัดมีนโยบายทำเป็น sandbox แต่ในความคิดเห็นส่วนตัว มองว่าบริบทของจังหวัดเชียงใหม่กับภูเก็ตนั้นมีความแตกต่างกันแต่หากเชียงใหม่ปรับเปลี่ยนมาเป็น ชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ และมีการปูพรมฉีดวัคซีนให้กับเฉพาะพื้นที่นำร่อง โดยเฉพาะในพื้นที่คูเมืองชั้นใน เนื่องจากสี่เหลี่ยมคูเมืองชั้นในนั้นคือเขตเศรษฐกิจของจังหวัด และเป็นแลนด์มาร์คของจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาจำนวนมาก ดังนั้นหากสามารถกระจายวัคซีนให้ครอบคลุมได้ทั้ง 13 ชุมนุมในพื้นที่สี่เหลี่ยมคูเมืองด้านในทั้งหมด ก็จะทำให้โอกาสที่พื้นที่จะเป็น Blue Zone เร็วขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้โอกาสในการเปิดเมืองเชียงใหม่เร็วขึ้นอยู่กับตามไปด้วย

นายวีระวิทย์ กล่าวต่อว่า การรับวัคซีนเพื่อทำให้พื้นที่ล่ามช้างกลายเป็น Blue Zone จำเป็นต้องได้รับวัคซีน 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและสามารถดำเนินกิจการได้อย่างเต็มที่ ที่ผ่านมาสถานการณ์ในชุมชนล่ามช้าง ผู้ที่ประกอบการธุรกิจเช่าอาคาร เช่าพื้นที่ และสถานที่ต่างๆ นั้น ส่วนใหญ่ปิดตัวไปเกือบทั้งหมด เนื่องจากสู้กับค่าเช่าไม่ไหว เพราะไม่มีรายได้ ส่วนที่ยังคงเหลือจะเป็นเจ้าของสถานที่ซึ่งส่วนใหญ่ปิดให้บริการชั่วคราว เนื่องจากไม่มีลูกค้า หรือนักท่องเที่ยว

อย่างก็ตามในส่วนเรื่องของ SHA และ ชาร์มมิ่ง เชียงใหม่ ตนอยากฝากถึงผู้ที่กำหนดเงื่อนไขการขอ SHA หรือ SHA PLUS ได้พิจารณาถึงวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน และอยากให้มีการละเว้นหรือผ่อนปรน ในเรื่องของกฎข้อบังคับต่างๆ เพื่อให้ผู้ประกอบการ หรือผู้ทำธุรกิจ รวมไปถึงจังหวัดเชียงใหม่และประเทศสามารถฟื้นตัวได้ก่อน ประมาณ 3-5 ปี เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ก่อน จากนั้นจึงค่อยปรับปรุงแก้ไขให้สอดคล้องไปกับสถานการณ์อีกครั้ง

ทั้งนี้ทางตนอยากจะเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ ภายหลังจากที่เชียงใหม่ได้ทำเป็น Blue Zone ที่มีการฉีดวัคซีนแล้ว ทำให้มั่นใจได้ว่าพื้นที่จะมีความปลอดภัยแน่นอน จึงอยากขอเชิญในช่วงใกล้ฤดูกาลท่องเที่ยว และในฤดูหนาวนี้ เชียงใหม่มีความพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างแน่นอน