19 กันยายน 2564 บรรยากาศเทศกาลลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณสถานีรถไฟบุรีรัมย์วันที่สามยังคงคึกคัก ถึงแม้จะมีฝนตกโปรยปรายตั้งแต่เช้าแต่ก็ไม่เป็นอุปสรรค ยังมีนักท่องเที่ยวและบรรดาแฟนคลับของ “ลิซ่า” จากหลายจังหวัด เดินทางมาเข้าคิวรอซื้อลูกชิ้นทั้งแบบทอดแล้ว และแบบเอาไปทอดเองที่บ้านเป็นแถวยาวเหยียด บางคนก็ถือโอกาสมาซื้อไปฝากเพื่อนๆ และญาติพี่น้องที่อยู่ต่างจังหวัดด้วยก็สั่งคนละ 10 – 20 ชุด จนแม่ค้าแพ็กแทบไม่ทัน ส่งผลให้ยอดออเดอร์ทั้งที่ซื้อหน้าร้านและสั่งผ่านออนไลน์พุ่งทะลุวันละกว่า 500 ชุด บางร้านถึงกับต้องปิดป้ายแจ้งว่าหมดแล้ว เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าออเดอร์วันนี้เต็มแล้ว ซึ่งแม่ค้าขายลูกชิ้นยืนกินทุกร้านต่างก็ดีใจ และบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า มีออเดอร์สั่งจองลูกชิ้นยาวไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย. ก็สร้างความดีใจให้กับพ่อค้าแม่ค้าเป็นอย่างมาก เพราะช่วงที่โควิดระบาดก็แทบขายไม่ได้เลย ก็ได้รับผลกระทบไปตามๆ กัน ขอบคุณที่ ลิซ่า พูดถึงลูกชิ้นยืนกินจนกลายเป็นกระแสฟีเวอร์ ทำให้เกิดปรากฏการณ์ขายดิบขายดีถล่มทลายอย่างที่เห็น บางคนถึงกับบอกว่ากระแสของลิซ่า ทำให้แม่ค้ากลับมาพลิกฟื้นขายดิบขายดีอีกครั้ง
จากการสอบถามน้องกิ๊บ และน้องเก๋ บอกว่า วันนี้ตั้งใจมาซื้อลูกชิ้นยืนกินตามรอยพี่ลิซ่า ซึ่งก็โทรศัพท์มาแจ้งไว้ก่อนว่าจะสั่งกี่ชุด เพราะช่วงนี้คนมาซื้อและสั่งออนไลน์เยอะ หากมารอซื้อที่หน้าร้านก็อาจจะผิดหวังไม่ได้รับประทาน แต่พอโทรมาสั่งไว้ก่อนก็มารับของที่ร้านเลย ยอมรับว่าลูกชิ้นยืนกินอร่อยโดยเฉพาะน้ำจิ้มซึ่งมีรสชาติอร่อยเข้มรสไม่เหมือนที่อื่น ก็อยากเชิญชวนให้ นทท.หรือผู้ที่ยังไม่ได้ลองรับประทานมาลองดูสักครั้ง
ส่วนบรรยากาศที่โรงงานรับตีหรือผลิตลูกชิ้นให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายลูกชิ้นยืนกิน ก็พลอยได้รับอานิสงส์จากกระแสลิซ่าไปด้วยเช่นกัน เพราะช่วงนี้ก็มีออเดอร์สั่งตีลูกชิ้นวันละมากกว่า 1,000 กิโลกรัม จากช่วงสถานการณ์โควิดมียอดตีลูกชิ้นเพียงวันละ 40 – 50 กิโลกรัมเท่านั้น โดยเฉพาะโรงงานตีลูกชิ้นของ น.ส.ธัญญารัตน์ ชินณารัตน์ ที่เปิดรับตีลูกชิ้นสืบทอดต่อจากปู่มาจนถึงปัจจุบันกว่า 60 ปีแล้ว ก็บอกว่า จากกระแสของลิซ่า ก็มียอดสั่งตีลูกชิ้นจากบรรดาพ่อค้าแม่ค้ามากถึงวันละ 2,000 กิโลกรัม จนผลิตไม่ทันต่อความต้องการเพราะกำลังเครื่องและแรงงานคนสามารถทำได้เต็มที่วันละ 1,600 กิโลกรัม
ส่วนที่เหลือก็ต้องแคนเซิลเพราะทำไม่ไหว แต่ก็ดีใจและขอบคุณลิซ่า ที่ทำให้มียอดออเดอร์เพิ่มขึ้นมากขนาดนี้ เพราะที่ผ่านมาช่วงเทศกาลปีใหม่หรือสงกรานต์เต็มที่ก็มียอดสั่งตีประมาณ 1,000 กิโลกรัมก็ถือว่าเยอมากแล้ว แต่นี้ไม่ใช่เทศกาลกลับมียอดสั่งตีมากถึง 2,000 กิโลกรัม คือพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือจากกระแสเพียงข้ามคืนเท่านั้น ก็ขอบคุณลิซ่า ที่ทำให้เศรษฐกิจบุรีรัมย์ดีขึ้น ซึ่งไม่ใช่แค่ร้านขายลูกชิ้นยืนกินและโรงงานผลิตเท่านั้น แม้กระทั่งร้านจำหน่ายขวดพลาสติกที่บรรจุน้ำจิ้ม วัตถุดิบที่ทำน้ำจิ้ม พริก มะขาม หรือแตงกวา กระหล่ำที่กินกับลูกชิ้นก็มียอดขายเพิ่มขึ้นเช่นกัน ก็ภาวนาขอให้กระแสลิซ่าฟีเวอร์แบบนี้ไปเรื่อยๆ เพราะพิษโควิดทำเศรษฐกิจซบเซษมานานนับปีแล้ว
โดย - สุรชัย พิรักษา