เพิ่ม nation online
ลงในหน้าจอหลักของคุณ
17 กันยายน 2564 นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ หรือ หมอเฉลิมชัย รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความลงใน Blockdit "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" เผยถึงงานวิจัยพบว่า การฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไปมีความปลอดภัย ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันสูง มีรายละเอียดดังนี้...
ความหวังของเด็กอนุบาลและประถมศึกษา ที่จะมีวัคซีนฉีดก่อนไปโรงเรียน โดย ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ทดลองในเด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป พบว่ามีความปลอดภัยและภูมิคุ้มกันขึ้นสูง
จากปัญหาการเปิดโรงเรียนในหลากหลายประเทศ ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนให้กับนักเรียน แล้วพบว่ามีการติดเชื้อจนต้องปิดโรงเรียนอีกครั้งหนึ่งนั้น
ขณะนี้ หลายบริษัทได้เร่งทำการทดลองการฉีดวัคซีนในเด็กอายุต่างๆกัน เช่น ไฟเซอร์ (Pfizer) และ โมเดอร์นา (Moderna) ทดลองในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และได้รับอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉิน กำลังเร่งทดลองในเด็กอายุ 5-11 ปี
ซิโนแวค (Sinovac) และ ซิโนฟาร์ม (Sinopharm) ก็ทดลองฉีดตั้งแต่เด็กอายุ 3 ขวบขึ้นไป และได้รับการอนุมัติให้ฉีดในสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศจีนแล้ว แต่ทางการจีนก็ยังเน้นฉีดเด็กมัธยมศึกษาอายุ 12 ปีขึ้นไป ยังไม่เร่งฉีดในเด็กอนุบาลและประถมศึกษา
ขณะนี้บริษัท Sinopharm ได้ตีพิมพ์ผลการศึกษาทดลองใน Lancet ซึ่งเป็นวารสารการแพทย์ระดับโลก เป็นที่เชื่อถือจากประเทศตะวันตก
โดย ซิโนฟาร์ม ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตาย และมีแนวโน้มที่จะมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีที่เคยฉีดในวัคซีนหลายชนิดมาหลายสิบปีในเด็ก เช่น วัคซีนป้องกันไอกรน วัคซีนป้องกันโปลิโอชนิดฉีด วัคซีนป้องกันตับอักเสบ และวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ เป็นต้น จึงมีพ่อแม่และผู้ปกครองหลายคน ที่ตั้งตารอผลการศึกษาของวัคซีนเชื้อตาย เพื่อที่จะได้ฉีดให้กับบุตรหลานของตนเอง
ขณะนี้มีข่าวล่าสุดว่า ผลการทดลองในเฟสหนึ่งและสองของวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กอายุ 3-17 ปี ได้ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจ โดยทำการแบ่งเด็กออกเป็นสามช่วงอายุ
โดยฉีดวัคซีนสามขนาดด้วยกัน คือ 2,4,8 ไมโครกรัม พบว่าสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นได้สูง
ทั้งสามกลุ่ม แม้จะได้มีการทดลองฉีดสามเข็มห่างกันเข็มละหนึ่งเดือน แต่ผลสรุปว่า การฉีดวัคซีนเพียงสองเข็ม ด้วยขนาดกลางคือ 4 ไมโครกรัม ก็กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี
ที่สำคัญคือ เรื่องความปลอดภัยและผลข้างเคียง พบว่า มีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงค่อนข้างน้อย โดยผลข้างเคียงที่พบบ่อยคือ เจ็บตำแหน่งที่ฉีด และมีไข้บ้าง ซึ่งก็หายได้ในเวลาไม่กี่วัน
จากงานวิจัยดังกล่าว ซึ่งเป็นเฟสหนึ่งและสอง ทำให้เป็นความหวังในระยะเวลาอันใกล้นี้ ถ้าผลการวิจัยเฟสสาม ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ สรุปออกมาว่ามีความปลอดภัยและมีภูมิคุ้มกันขึ้นสูงแล้ว
เด็กวัยอนุบาลและประถมศึกษา ก็จะมีวัคซีนฉีดกัน ซึ่งโชคดีสำหรับประเทศไทย ที่เราได้สั่งวัคซีนซิโนฟาร์ม ผ่านทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เข้ามาแล้วหลายล้านโดส เมื่อมีการศึกษาเรียบร้อย ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่นานนัก ก็จะสามารถฉีดให้กับเด็กไทยได้ต่อไป