ยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์จีนหนี้ท่วม นักลงทุนแห่ทวงเงินคืน

เกิดเหตุชุลมุนวุ่นวายที่สำนักงานใหญ่ของกลุ่มบริษัทเหิงต้า หรือ China Evergrande Group เมื่อมีประชาชนราว 100 คน ไปรวมตัวกันที่ล็อบบี้ เรียกร้องให้บริษัทคืนเงินลงทุน หุ้นกู้ และเงินดาวน์โครงการพัฒนาต่างๆ แต่ต้องพบความผิดหวังที่บริษัทเสนอข้อแลกเปลี่ยนอื่น เช่น ร้านค้า โรงเรียนอนุบาล และที่จอดรถที่พวกเขาเอาไปใช้งานไม่ได้ มิล่า หยวน ผู้จัดการโครงการคาดการณ์และการวิเคราะห์ทางธุรกิจของ "AmCap" ให้ความเห็นว่า ในช่วงหลายปีมานี้ มีนักลงทุนจำนวนมาก เอาเงินไปลงตามบริษัทต่างๆ เช่น "Evergrande" เพราะเชื่อว่า ถ้ามีสิ่งที่ทำให้เกิดความไม่แน่นอนขึ้น รัฐบาลก็จะเข้ามาช่วยเหลือ ถึงแม้จะล้ม ก็ล้มบนฟูก ....

Evergrande เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่อันดับ 2 ของจีน และเป็นอันดับ 1 ใน 150 บริษัทชั้้นนำของโลก มีโครงการอยู่ในมือมากกว่า 1,300 โครงการ ในกว่า 280 เมือง จากข้อมูลของ Fortune 500 บริษัทมีพนักงานมากกว่า 123,000 คน มีรายได้รวม 7.35 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2563 แต่ตอนนี้กลับมีหนี้สินมากที่สุดในโลก  3.56 แสนล้านดอลลาร์ โดยยอมรับเมื่อวันอังคารว่า กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก ขาดแคลนเงินสด และได้ว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อตรวจสอบทางเลือกทางการเงิน ซึ่งในช่วงปีที่ผ่านมา หุ้นบริษัทร่วงมากกว่า 70% ผู้รับเหมาและซัพพลายเออร์ไม่ได้รับเงินตรงเวลา และยังถูกเจ้าหนี้ฟ้องร้องมาโดยตลอด

วิบากกรรมของ Evergrande เริ่มต้นจากความเฟื่องฟูของอสังหาริมทรัพย์ในยุค 90 ซึ่งส่งผลให้กิจการขยายตัวอย่างรวดเร็วและการไล่ซื้อกิจการต่างๆ ช่วงหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่มาตรฐานเครดิตที่เข้มงวดของจีน สนับสนุนให้ Evergrande ขายโครงการก่อนจะเสร็จสมบูรณ์เพื่อรักษากระแสเงินสด ทำให้ธนาคารต่างๆ เริ่มไม่แน่ใจกับการดำเนินธุรกิจและลังเลที่จะปล่อยสินเชื่อให้ จนกระทั่งรัฐบาลออกนโยบาย "เส้นสีแดง 3 เส้น" (three red-line) เมื่อปีที่แล้ว เพื่อควบคุมการเติบโตภาคอสังหาฯ ทำให้ Evergrande ได้รับผลกระทบอย่างจัง และการผิดนัดชำระหนี้ อาจทำลายความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ส่งผลกระทบต่อเงินฝากของครัวเรือน โดยเฉพาะบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ