ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซียประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์โครงการสร้างโรงงานผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้ามูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ในเขตคาราวัง จังหวัดชวาตะวันตก ซึ่งเป็นโรงงานแห่งแรกในอินโดนีเซียและในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โรงงานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างบริษัทฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ป และบริษัท แอลจี เอ็นเนอร์จี โซลูชัน และจะผลิตแบตเตอรีสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าที่ผลิตโดยฮุนได
เขากล่าวว่า การก่อสร้างโรงงานแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของอินโดนีเซียในการพัฒนาอุตสาหกรรมปลายน้ำและเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางเศรษฐกิจภายในประเทศ ที่เคยพึ่งพารายได้จากการส่งออกวัตถุดิบเป็นหลัก สู่การผลิตในภาคอุตสาหกรรม
เขาย้ำด้วยว่า อินโดนีเซียเป็นแหล่งสำรองแร่นิกเกิลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งหากมีการบริหารจัดการนิกเกิล ที่เป็นวัตถุดิบสำคัญของการผลิตแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสม เขาเชื่อว่า อินโดนีเซียจะกลายเป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าจากแร่นิกเกิล เช่น แบตเตอรีลิเธียม และแบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า รายใหญ่ได้ภายใน 3-4 ปีข้างหน้า
เขาบอกด้วยว่า อุตสาหกรรมนิกเกิลปลายน้ำจะช่วยเพิ่มมูลค่าของแร่นิกเกิล โดยหากเข้าสู่การผลิตเป็นแบตเตอรี ราคาของนิกเกิลจะเพิ่มสูงขึ้น 6-7 เท่า และหากนำไปใช้ในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ราคาของนิกเกิลจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 11 เท่า
ผู้นำอินโดนีเซีย คาดว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมแบตเตอรีจะช่วยให้อินโดนีเซียเป็นจุดหมายการลงทุนที่น่าสนใจมากยิ่งขึ้นสำหรับอุตสาหกรรม ที่ใช้แบตเตอรี เช่น การลงทุนผลิตรถยนต์และรถโดยสารไฟฟ้า เป็นต้น
นอกจากนี้บาห์ลิล ลาฮาดาเลีย รัฐมนตรีการลงทุน ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการประสานการลงทุนอินโดนีเซีย กล่าวในพิธีวางศิลาฤกษ์ด้วยว่า อินโดนีเซียจะสามารถผลิตรถยนต์ไฟฟ้าได้ภายในเดือน พ.ค.ปีหน้า โดยการผลิตนี้เป็นการลงทุนของบริษัทฮุนได มอเตอร์ กรุ๊ปของเกาหลีใต้เป็นเงิน 1,500 ล้านดอลลาร์