เอมมา ราดูคานู วัย 18 ปี กำลังก้าวสู่เส้นทางการเป็นว่าที่ "ดาม" หรือ "คุณหญิง" ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ หลังได้รับพระราชสารแสดงความยินดีเป็นการส่วนพระองค์จากสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ที่เป็นไปได้สูงที่เธอจะได้รับพระราชทานเครื่องราชย์อิสริยาภรณ์แห่งจักรวรรดิบริทิชอันมีค่ายิ่ง (Commander of the Most Excellent Order of the British Empire) หรือ CBE จากการคว้าแชมป์หญิงเดี่ยวแกรนด์สแลมสุดท้ายของปี "US Open 2021" ด้วยการเอาชนะ เลย์ลาห์ แอนนี่ เฟอร์นานเดซ วัย 19 ปี มือวางอันดับ 73 ของโลก ที่สนาม "Arthur Ashe Stadium" ในนิวยอร์ก 2 เซตรวด 6-4, 6-3 คว้าเงินรางวัล 1.8 ล้านปอนด์ (81 ล้านบาท) จะขยับจากมือวางอันดับ 150 ของโลก ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 23 ของโลก ในการจัดอันดับนักเทนนิสในวันนี้ (13 กันยายน)
แหล่งข่าววงในหลายคนมั่นใจว่า ราดูคานู มีคุณสมบัติเหมาะสมที่จะได้รับเครื่องราชย์ แม้จะเป็นระดับ CBE หรือขั้น 3 หรืออาจเป็นชั้นรองลงมาอย่าง OBE (Officer of the Most Excellent Order of the British Empire) ซึ่งคนที่ได้รับส่วนใหญ่เป็นนักกีฬาในวงการฟุตบอล ส่วน ราดูคานู ถือว่ามาไกลและยิ่งใหญ่มาก จากนักเรียนระดับเกรด A ของโรงเรียนมัธยมในออร์พิงตัน ก้าวสู่การเป็นราชินีคนใหม่แห่งวงการเทนนิสโลก และมีสิทธิ์คว้าตำแหน่ง "BBC Sports Personality of the Year" ประจำปีนี้ด้วย
สถิติที่น่าสนใจของ ราดูคานู ได้แก่เป็นนักเทนนิสมือควอลิฟายคนแรกที่ผงาดขึ้นมาคว้าแชมป์แกรนด์สแลม / นักเทนนิสสหราชอาณาจักรคนแรกที่คว้าแชมป์แกรนด์สแลมในรอบ 44 ปี นับตั้งแต่ เวอร์จิเนียร์ เวสต์ คว้าแชมป์วิมเบิลดันเมื่อปี 1977 / นักเทนนิสสหราชอาณาจักรคนแรกที่คว้าแชมป์ US Open ในรอบ 53 ปี หลัง เวอร์จิเนียร์ เวสต์ ทำไว้ในปี 1968 และเป็นแชมป์เทนนิสแกรนด์สแลมหญิงอายุน้อยที่สุดในรอบ 17 ปี หลังจาก มาเรีย ชาราโปวา ทำได้ในปี 2004 ขณะอายุ 17 ปี และนอกจากเงินรางวัลจากการแข่งขันแล้ว ยังมีโอกาสที่จะได้รับสปอนเซอร์และค่าตอบแทนมหาศาล ซึ่งนักการตลาดหลายคนคาดการณ์ว่า กำลังจะมีรายได้หลั่งไหลเข้าไปหาเธออย่างน้อย 150 ล้านปอนด์ (6,700 ล้านบาท)