วันที่ 12 กันยายน 2564 ที่บริเวณ สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี มีกลุ่มสาวโรงงานกว่า 30 คน รวมตัวนำหลักฐานเอกสาร มาร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สมคิด บุญลอย รอง สว.สอบสวน สภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าถูกอดีตเพื่อนร่วมงาน ทราบชื่อคือ น.ส.สุพัตรา (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี อยู่บ้านในอ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ออกอุบายชักชวนให้ร่วมลงทุนธุรกิจจำหน่ายอะไหล่และซ่อมรถจักรยานยนต์ พอได้เงินไปก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ซึ่งมีผู้เสียหายที่ถูกชักชวนและสูญเงินรวมกันไปกว่า 27 ล้านบาท
ด้าน น.ส.ปานนิดา เกื้อกูล อายุ 42 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองและเพื่อนอีก 30 คน ทำงานอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง ได้ถูก น.ส.สุพัตรา ซึ่งเคยทำงานอยู่ที่โรงงานเดียวกัน และลาออกจากโรงงานไปประมาณ 2 ปีแล้ว แต่ปรากฎว่าเมื่อช่วง 5-6 เดือนที่ผ่านมา ผู้ก่อเหตุได้ติดต่อหาเพื่อนแต่ละคนออกอุบายชักชวนให้มาร่วมลงทุนในธุรกิจจำหน่ายอะไหล่และซ่อมรถจักรยานยนต์ และให้ผลตอบแทนดี
ซึ่งร้านตั้งอยู่ที่บริเวณหน้าวัดหนองคล้า ต.บึง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ส่งผลให้ทุกคนหลงเชื่อ และร่วมลงทุนไปรวมทั้งหมดกว่า 27 ล้านบาท อย่างตนเองคนเดียวก็เสียเงินไปทั้งหมด 2.5 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกได้ผลตอบแทนดี จ่ายให้ตรงทุกเดือน จนกระทั่งล่าสุดเริ่มมีการจ่ายผลตอบแทนช้าลงก่อนที่จะหายตัวไปเลย
เบื้องต้นทาง ร.ต.อ.สมคิด บุญลอย ร้อยเวรสอบสวน สภ.ศรีราชา ได้แนะนำให้ทางกลุ่มผู้เสียหาย ตั้งตัวแทนมา 1 คน ทำหนังสือมอบอำนาจ และเขียนบันทึกแต่ละคนมา พร้อมแนบหลักฐานเอกสารการโอนเงิน หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็จะทำการลงบันทึก เพื่อออกหมายเรียกผู้ก่อเหตุจำนวน 2 ครั้ง หากไม่มารับทราบข้อกล่าวหา ก็จะถูกออกหมายจับดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป