svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

“พระพยอม”ยกคำ“พุทธทาส”เทศน์แบบไหนขึ้นตาชั่งตัดสินใจ

07 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

“พระพยอม”สอนธรรมภิกษุรู้เท่าทันเทคโนโลยี ใช้ได้ต้องสำรวมและอย่าระเริง พร้อมยกคำ "หลวงพ่อพุทธทาส" ลองขึ้นตาชั่ง วัดความได้-เสีย อะไรมากกว่ากัน เชื่อ "พระมหาสมปอง-พระมหาไพรวัลย์" ไม่ใช่สงฆ์หัวดื้อ

7 กันยายน 2564 พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว กล่าวกับ "เนชั่นทีวี" ต่อกรณี พระมหาสมปอง ตาลปุตโต และพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ชื่อดังวัดสร้อยทอง ที่ร่วมกันไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊ก ว่า สมัยโน้นมันไม่มีออนไลน์แบบนี้ ไปเทศน์เฉพาะโรงเรียน เราก็เทศน์สนุกต่อมาเขาเอาเทปของอาตมาเนี่ยไปออกทีวี พอไปออกทีวีก็มีหลายพวกหลายกลุ่ม บางพวกก็ไม่ฟังว่าเราเทศน์กับใครพอเขาเอาความเป็นผู้ใหญ่เข้ามาตัดสินเลยกลายเป็นว่าพระเทศน์ไม่เหมาะสมสำหรับเขาไป

 

ทั้งนี้ การสำรวมของพระสงฆ์ มี 2 ระดับ สำรวมที่พระพุทธเจ้าสอน คือ สำรวมตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เมื่อได้ยิน ได้ฟังอะไร อย่าวูบวาบหวั่นไหวไปกับสิ่งที่เห็น หลวงพ่อพุทธทาสจับประเด็นให้อาตมา ถือปฏิบัติว่าพอเห็นอะไรบอกเห็นแล้ว ระวังๆ อย่ารัก อย่าชัง อย่าวูบวาบ ไปกับมัน ได้ยินแล้วระวังๆ อย่ารัก อย่าชัง อย่าวูบวาบ ไปกับมัน นี่คือสังคมระดับสูง

 

พระพยอม กล่าวต่อว่า แต่ถ้าสำรวมระดับต่ำ กาย วาจา กริยา ท่าทาง มารยาท สารูป พระเรียกสารูป คือ สมณสัญญารู้ว่าตัวเองเป็นอะไรควรพูดท่าทางกิริยาลีลาท่าทางอย่างไร อย่างนี้เรียกสำรวม ในสำนวนมีคำสอนพระไตรปิฎก ว่าอย่าหัวเราะเริงร่าเหมือนเด็กอ่อนแบเบาะ 

"พระพุทธเจ้าจะไม่หัวเราะ จะทรงแย้มพระสรวล ไม่หัวเราะดังหรือออกอาการเอิกอ๊ากไปต่างๆ เขาจึงถือว่า ต้องสำรวมแบบนั้น แต่เราไปดูพระเทศน์แหล่บ้าง ไปดูพระที่อออกอาการสนุกสนาน นี่เขาก็เลยรับไม่ได้กันบางคนนะ แต่สำหรับอาตมาแล้วเคยผ่านเรื่องนี้มาจนกระทั่งโดนอาจารย์คึกฤทธิ์ ปราโมช โดนคุณสมัคร สุนทรเวช อาจารย์คึกฤทธิ์บอกว่าไม่ศรัทธาเลยเทศน์ แบบพระพยอมนี่รับไม่ได้

 

ตอนนั้นเราก็หัวรุนแรง ไฟแรง ก็เลยย้อนสวนไปว่าที่บวชมานี่ ก็ไม่ได้บวชให้อาจารย์หม่อมศรัทธา ก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ จนท่านไปฟ้องหลวงพ่อพุทธทาส ตอนนั้นอาตมาอยู่สวนโมกข์ 7 ปี นักข่าวก็ไปสัมภาษณ์ว่าพระพยอมตลกโปกฮา เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อรู้สึกยังไง แต่หลวงพ่อทราบข้อมูลมาก่อนว่ามีเด็กวัยรุ่นเนี่ยเอาซาวด์เบ้าท์ใส่ฟังเทปพระพยอมสนุกสนานเริงร่า แล้วก็บอกว่าเทปขายดี 40 ล้านตลับ" พระพยอม กล่าว

อย่างไรก็ตาม หลวงพ่อปัญญาก็เลยบอกว่าพยอมเทศน์สอนหลังเรานี่ ดังแซงไปแล้ว ทีนี้หลวงพ่อพุทธทาสท่านพูดดีมาก ท่านไม่ตอบว่าเหมาะไม่เหมาะ ท่านบอกก็เอาพระพยอมขึ้นตาชั่งดูว่า ระหว่างได้กับเสีย เทศน์แล้วเสียมากกว่า หรือเทศน์แล้วได้วัยรุ่นมามากให้ขึ้นตาชั่งดู ตอนนั้นก็เริ่มดีขึ้นแล้วอีกอย่างอาตมาก็โดนผู้หลักผู้ใหญ่ตะล่อมบอกเตือน ก็รีบปรับบวกกับอายุมากขึ้นก็เลยเทศน์สำรวมระวังไม่สนุกสนานเกินเหตุ แต่กลับโดนด่าโดนว่าอีกทำไมเทศน์ไม่สนุกขึ้น เป็นเจ้าคุณแล้ววางเต๊ะท่าเป็นงั้นไปอีก

 

พระพยอม กล่าวอีกว่า ยังไงๆ ก็เทคโนโลยี มีปราชญ์พูดไว้ว่าวิทยาศาสตร์ไปถึงไหนพุทธศาสตร์ก็ไปถึงนั่น มันจะไปยังงี้ แต่บางทีเทคโนโลยีหลวงพ่อพุทธทาสติงไว้นิดนึงว่า ระวังไอ้เจ้าเทคโนโลยีมันจะวิวัฒนการไปสู่วินาศนาการทางศีลธรรม ถ้ามันเหลิงนะ ถ้าไม่เหลิงก็ไม่มีปัญหา

 

ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาก็ทำถูกแล้วหาข้อมูลไปให้พระผู้ใหญ่พิจารณา พระผู้ใหญ่ที่เป็นฝ่ายปกครองก็ไล่กันไปตามลำดับจะตักเตือนกันอย่างไร แต่เชื่อว่าพระสงฆ์ 2 รูปนี้ไม่ใช่พระหัวดื้อ ไม่ใช่พระปัญญาอ่อน คงจะรับคำเตือนคำสอนพระผู้ใหญ่ได้ ก็คงปรับปรุงไปเรื่อยๆตามอายุขัยบ้าง ตามสถานการณ์ที่คนตำหนิติเตียนมาบ้าง เชื่อเถอะ พระพยอมได้กล่าวทิ้งท้าย

 

logoline