svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"อดีตพระพุทธะอิสระ" เตือน "พระมหา" ปังแล้วระวังพังไม่รู้ตัว

07 กันยายน 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เดือดแน่ๆ เมื่อ "อดีตพระพุทธะอิสระ" พูดโยงถึงกลุ่ม "พระมหาหิวแสง" บอกเสียงหัวเราะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่อาการหน้าด้าน ถือว่าทำลายพระธรรมวินัยโดยตรง พร้อมซัดหนักเป็น "อลัชชีสงฆ์" ไม่เหลือสมณสารูป

ณ นานี้ กระแสผ้าเหลือง กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงในสังคมไทย ภายหลัง “พระมหาไพรวัลย์” แห่งวัดสร้อยทอง โชว์วิธีการสอนธรรมะสอดแทรกมุกตลก ด้วยคำศัพท์ใหม่ๆ จนเป็นขวัญใจชาวโซเชียล ภายในเวลาไม่กี่วัน

 

แต่อีกมุมหนึ่ง ก็มีเสียง “ติเตียน” ถึงพฤติกรรมเล่นโซเชียลของกลุ่มพระสงฆ์ว่า “ล้ำเส้น” เกินไปหรือไม่ แม้ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จะระบุว่า ไม่มีความผิดวินัยรุนแรง

"อดีตพุทธะอิสระ" เตือน "พระมหา" ปังแล้วระวังพัง

ล่าสุดนายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ “อดีตพระพุทธะอิสระ” อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พูดผ่านรายการ “คุยเฟื่องเรื่องโลกกับธรรม EP. 75 : พระธรรมกถึก” โดยระบุตอนหนึ่งถึงกลุ่มบุคคลชื่อ “พระมหาหิวแสง” ว่า ตอนนี้กำลังปัง แต่ต้องเตรียมตัวพังด้วยนะ แม้การหัวเราะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่ความหน้าด้านมันทำลายพระธรรมวินัย ซึ่งเป็นการพิสูจน์ผู้เก้อยาก

 

“การหัวเราะไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตาย แต่ความหน้าด้านทำลายพระธรรมวินัย เขาเรียกอลัชชีสงฆ์ ทำไมต้องใช้คำนี้ เขาบอกโนสน โนแคร์ ไม่ต้องสนพระธรรมวินัย ไม่ต้องสนระเบียบอะไร อย่างน้อยเขาก็มีคนติดตามเป็นแสนเป็นล้าน แล้วจะมาแคร์อะไร”

ส่วนกรณีที่มหาเถรสมาคมบอกว่าไม่ผิดพระธรรมวินัยร้ายแรงนั้น “อดีตพระพุทธะอิสระ” บอกว่า ถึงแม้จะไม่ผิดพระธรรมวินัยร้ายแรง แต่พฤติกรรมของเขา ไม่เหลือความเป็นสมณสารูปให้มองเห็นได้ ซึ่งศาสนาอื่น ผู้ที่จะมาประกาศธรรมต้องผ่านการอบรม ต้องเรียนรู้ศึกษาวิธีประกาศธรรม ต้องได้รับการแต่งตั้ง จนเกิดความเชี่ยวชาญ แต่ศาสนาพุทธแค่ห่มผ้าเหลือง ก็คุยธรรมะได้แล้ว หรือไม่ห่มผ้าเหลืองก็ยังคุยได้

 

“ศาสนาพุทธมีเสรีภาพเยอะมาก มันก็พวกเก้อยาก มาอาศัยศาสนาหากินอยู่ตลอด เหมือนกรณีเณรคำ พระนิกร และยันตระ”

"อดีตพุทธะอิสระ" เตือน "พระมหา" ปังแล้วระวังพัง

สำหรับกรณีที่ “พระมหา” เขียนอ้างว่า การสอนธรรมะแบบนี้ ทำให้เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่น ทาง “อดีตพระพุทธะอิสระ” ระบุว่า มีประโยคในการสอนคำไหนที่เป็นธรรมะบ้าง

นอกจากนี้ “อดีตพระพุทธะอิสระ” ยังโพสต์ข้อความถึงคำถามที่ว่า ท่านรู้สึกยังไงกับเฟซบุ๊กไลฟ์ ของมหาสองรูปที่แสดงธรรม ออกมาเล่นตลกให้คนดู? ตอบพฤติกรรมส่อถึงตัวตนของผู้กระทำ ผู้มีปัญญามองแล้ว เห็นแล้ว รู้แล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่า พระธรรมวินัยนี้คงจะไปหวังอะไรกับคนเก้อยาก

 

ถามดราม่าที่เกิดขึ้นในกรณีเฟซบุ๊กไลฟ์ของมหาทั้งสองนี้ท่านมองอย่างไร? ตอบก็มหาออกมาพูดเองไม่ใช่หรือว่า เขาโนสน โนแคร์ เพราะเขามีมวลชนสนับสนุนเขาเป็นแสน ทำให้เขามีตัวตนดังที่เห็น เมื่อเขาเห็นจำนวนมวลชนยังสนับสนุนเขาจำนวนมากเสียขนาดนี้ ใยเขาต้องมาสนใจพระธรรมวินัย จารีตประเพณี และกฎเถรสมาคมอีกเล่า นั้นก็คงเป็นเพราะ เขายึดจำนวนมวลชนเป็นหลักนั่นเอง

 

ถามแล้วพระธรรมวินัยว่าอย่างไร กับการแสดงธรรม? ตอบ พระธรรมวินัยบอกไว้ชัดว่า ผู้ที่จะประกาศธรรม เผยแพร่ธรรม จักต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ 5 ประการ

 

1.แสดงธรรมไปโดยลำดับ 2.อธิบายชี้แจ้งให้เข้าใจตามหลักเหตุและผล 3.แสดงธรรมด้วยความเมตตา 4.แสดงธรรมธรรมโดยมิได้มุ่งหวังอามิส 5.แสดงธรรมโดยไม่กระทบผู้อื่น และยังต้องมีจุดมุ่งหมายในการแสดงธรรม เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความเบื่อหนาย ให้ผู้ฟังคลายความกำหนัด ความทะยานอยาก เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ผู้ฟัง เพื่อความดับภพ ชาติ บวชเรียนมาจนได้ปริญญา เรียนได้ถึงมหาเปรียญ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ยังไม่รู้ ไม่รู้ก็ต้องบอกว่า โนคอมเม้นท์แล้วล่ะ

"อดีตพุทธะอิสระ" เตือน "พระมหา" ปังแล้วระวังพัง

logoline