ตำรวจเรียกสอบคู่กรณีรุมทำร้ายสาวคนรักเก่า ที่น้ำตกห้วยตึ๊กชู

6 กันยายน 2564 ที่ สถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ ร้อยตำรวจเอก ณัฐกฤษฎ์ อิทธิ์ทิสอน ร้อยเวรสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ได้เชิญคู่กรณี ที่เกิดภาพทางโซเชียลเป็นคลิปวิดีโอขณะที่วัยรุ่น 3 คน กรู่เข้ารุมทำร้ายหนุ่มอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีเพื่อนสาวรุ่นพี่ คอยกอดปิดป้องร่างไว้ ขณะถูกรุมทำร้ายจนทำให้ได้รับบาดเจ็บเนื้อตัวเขียวช้ำ และนิ้วนางข้างซ้ายกระดูกแตกหักถึงหลังมือ เหตุเกิดเมื่อเย็นของวันที่ 2 กันยายน 2564 ที่ลำธารน้ำตกห้วยตึ๊กชู หลังหมู่บ้านโอปังโก หมู่ที่ 6 ตำบลไพรพัฒนา

แม้ว่าก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 3 กันยายน คู่กรณีกลุ่มวัยรุ่นสามคนที่รุมทำร้ายสาวคนรักเก่าจะเข้าเจรจาและยอมชดใช้ค่าเสียหายแล้วก็ตาม แต่ในด้านคดีอาญาที่รุมทำร้ายคนอื่นเจ้าหน้าที่ตำรวจจำเป็นต้องสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย แจ้งความเอาผิด

โดยวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 คน มาร่วมรับการสอบสวน โดยมีสาว อายุ 22 ปี ที่ปกป้องเพื่อนรุ่นน้อง ที่เป็นชายแล้วถูกแฟนเก่าเข้าใจผิดว่าเป็นแฟนใหม่ ฝั่งนี้สองคนโดยเดินทางมากับป้าผู้ดูแล และผู้ปกครองพี่ชายพี่สาว และอีกฟากหนึ่งคือกลุ่มวัยรุ่น 3 คน สองคนแรก อายุ 18 และ 19 ปี  

ส่วนหนุ่มที่เป็นชนวนเหตุที่เป็นแฟนเก่าสาวอายุ 20 ปี ร่วมเดินทางมากับมารดาและญาติๆ เช่นกัน โดยทั้งหมดได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนคาดว่าจะทยอยสอบให้เสร็จทั้งหมดในช่วงก่อนเย็นวันนี้

ร้อยตำรวจเอก ณัฐกฤษฎ์ สิทธิ์ทิสอน ร้อยเวรสอบสวนคดีรุมทำร้าย เล่าว่า วันนี้ได้เชิญผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งสองฝ่ายอันได้แก่ฝ่ายผู้ที่ถูกทำร้ายคือหญิงสาวอายุ 22 ปีและชายอายุ 20 ปีที่ถูกทำร้ายจนนิ้วนางข้างซ้ายแตกหักถึงกลางหลังมือ พร้อมมีรอยฟกช้ำดำเขียวทั่วร่าง และอีกคนนึงน้องชายวัยรุ่นอายุ 20 ปีที่ถูกรุมยำทั้งมือทั้งเท้าได้รับบาดเจ็บน่วมไปทั้งตัวมาให้ข้อมูลในการถูกทำร้ายในวันเกิดเหตุ พร้อมกับผู้ที่ก่อเหตุคือวัยรุ่นทั้งสามคนที่มีอายุระหว่าง 18  19  และ 20 ปี มาสอบสวนตามหลักฐานคลิปวิดีโอที่ปรากฏในโซเชียล

ทั้งหมดให้การรับสารภาพจึงได้แจ้งข้อหาทั้งสามคนว่า ทำร้ายผู้อื่นโดยเจตนาให้ได้รับบาดเจ็บทั้งกายและจิตใจ และบาดเจ็บสาหัส ซึ่งจะได้สอบสวนลงบันทึกเพื่อส่งศาลเยาวชนและครอบครัวในวันนี้ ในกรณีที่เยาวชนอายุไม่ถึง 20 ปีและส่งศาลจังหวัดศรีสะเกษในกรณีที่อายุเกิน 20 ปี 1 ราย ในส่วนการชดเชยค่าเสียหายทางแพ่งก็เป็นเพียงหลักฐานประกอบเพื่อให้ศาลได้พิจารณาในส่วนการดำเนินคดีในคดีอาญาก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

โดย - พงษ์พัฒน์ ไตรพิพัฒน์