ตำรวจฮ่องกงกำลังทำการสืบสวนพิธีรำลึกถึงผู้เสียในเทียนอันเหมิน วันที่ 4 มิถุนายน 1989 แก่เหล่าผู้ประท้วงที่เรียกร้องประชาธิปไตย จากการปราบปรามตรงจัตุรัสเทียนอันเหมิน กรุงปักกิ่ง โดยมีจดหมายส่งตรงถึงผู้จัดพิธีร้องขอความร่วมมือในการสืบสวน ภายหลังเกิดการจับกุมผู้มีส่วนร่วมในวันที่ 4 มิถุนายน 2021
เนื้อหาในจดหมายจากทางตำรวจกล่าวว่า ทางพันธมิตรฮ่องกงสนับสนุนประชาธิปไตยผู้รักชาติจีน ต้องส่งรายละเอียดของคณะกรรมการและสมาชิกของหน่วยงานทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ข้อมูลส่วนบุคคลอย่าง ชื่อ ที่อยู่ ช่องทางติดต่อ ไปจนถึงอาชีพการงาน
รวมถึงสั่งให้กลุ่มเคลื่อนไหวที่จัดตั้งมายาวนานกว่าสามทศวรรษเพื่อสนับสนุนผู้เรียกร้องประชาธิปไตยในปักกิ่ง จัดทำบันทึกการประชุมทั้งหมดกับกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งในฮ่องกง, ไต้หวัน และต่างประเทศ รวมถึงที่มาของแหล่งรายได้แจ้งต่อทางตำรวจอีกด้วย
ทางตำรวจระบุว่าคำขอดังกล่าวเกิดขึ้นจาก “มีเหตุน่าเชื่อถือ” ว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการสืบสวนอาชญากรรม หากไม่ส่งมอบมาภายใน 14 วันจะถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย และยังยืนยันว่าข้อมูลเหล่านี้เกี่ยวข้องกับ “ความมั่นคงของชาติ” แต่ปฏิเสธในการให้รายละเอียดเพิ่มเติม
จดหมายดังกล่าวถูกนำมาเผยแพร่สู่สาธารณะผ่านทางสถานีโทรทัศน์ RTHK มีรายงานว่าสัปดาห์นี้กลุ่มพันธมิตรฯกำลังจะปิดตัวลง ภายหลังปักกิ่งประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ที่มีผลบังคับใช้ปีก่อน ที่ถือว่าการแยกตัว ล้มล้าง บ่อนทำลาย ก่อการร้าย หรือสมคบกับกองกำลังต่างชาติเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
การเข้ามาของกฎหมายฉบับนี้ทำให้ภูมิทัศน์ทางการเมืองและสังคมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ภายใต้กฎหมายความมั่นคงใหม่ ทั้งผู้ประท้วง นักข่าว หรือบุคคลเรียกร้องประชาธิปไตยพากันถูกจับกุม สำนักข่าวมากมายถูกบังคับให้ปิดตัว รวมถึงหนังสือ ภาพยนตร์ เว็บไซต์ และสื่อทุกแขนงต้องเผชิญกับการเซ็นเซอร์ระลอกใหม่ ภายใต้แรงกดดันจากทางการองค์กรประชาสังคมหลายแห่งรวมถึงสหภาพแรงงานทรุดลงทันควัน
ทางพันธมิตรฮ่องกงฯจัดพิธีรำลึกผู้เสียชีวิตขึ้นทุกปีนับแต่ 1990 เป็นต้นมา จากเหตุการณ์จัตุรัสเทียนอันเหมินที่เริ่มต้นด้วยผู้ประท้วงรวมตัวในกรุงปักกิ่ง นักศึกษาจำนวนมากออกมาเรียกร้องการผลักดันปฏิรูปรัฐบาลให้ไปในทิศทางเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ก่อนจบลงด้วยโศกนาฎกรรมภายหลังการส่งกำลังทหารเข้าไปยุติการประท้วงในวันที่ 4 มิถุนายน 1989
ไม่เคยมีการแจ้งยอดผู้เสียชีวิตจากทางการ แต่คาดว่าอาจมีนักศึกษาจำนวนหลายร้อยหรือหลายพันเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ รัฐบาลจีนพยายามอย่างยิ่งยวดในการลบเหตุการณ์นี้ ทั้งในส่วนการประท้วงและปราบปรามออกไปจากหน้าประวัติศาสตร์ โดยใช้การเซ็นเซอร์ควบคุมเนื้อหามายาวนาน พิธีรำลึกด้วยการจุดเทียนกลายเป็นสิ่งเดียวที่เป็นอนุสรณ์แด่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้นบนแผ่นดินจีน
แต่สิ่งเหล่านั้นกำลังจะเปลี่ยนไปเมื่อพิธีรำลึกฯเริ่มถูกสั่งห้าม โดยอาศัยข้ออ้างในด้านสถานการณ์แพร่ระบาดโควิดมาบังหน้า อีกทั้งยังมีคำเตือนจากสำนักงานความมั่นคงของฮ่องกงด้วยว่า การเข้าร่วมหรือส่งเสริมการชุมนุมในวันที่ 4 มิถุนายน เป็นการละเมิดกฎหมายความั่นคงแห่งชาติอย่างร้ายแรงจนอาจส่งผลให้ถูกจำคุก