อัฟกัน 14 ล้านคนอดอยาก เศรษฐกิจใกล้ล่มสลาย

เดวิด บีสลีย์ ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ WFP ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีราเมื่อวันอังคารขณะตรวจเยี่ยมผู้อพยพชาวอัฟกันราว 500 คนในกรุงโดฮาของกาตาร์ โดยบอกว่า ประชาชนราว 14 ล้านคนในอัฟกานิสถานหรือเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศเสี่ยงตกอยู่ในภาวะอดอยาก ซึ่งรวมถึงเด็ก 2 ล้านคนที่มีภาวะขาดแคลนสารอาหาร  และต้องการระดมความช่วยเหลือให้ได้ถึง 200 ล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่ชาวอัฟกัน ที่ประสบความยากลำบาก หลังตาลีบันเข้ายึดกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานเมื่อวันที่ 15 ส.ค.

เขาเตือนด้วยว่า WFP กำลังจะขาดแคลนอาหารในเดือนก.ย.หากไม่ได้รับเงินสนับสนุน และเปิดเผยว่า ตาลีบันซึ่งควบคุมพื้นที่ 33 จังหวัดจากทั้งหมด 34 จังหวัดให้ความมั่นใจว่าจะคุ้มครองโกดังเก็บอาหารของโครงการ และ WFP จะสามารถจัดส่งอาหารไปแจกจ่ายแก่ประชาชนได้โดยไม่ถูกขัดขวาง

นอกเหนือจากสงครามที่ยืดเยื้อหลายปี ความมั่นคงทางอาหารในอัฟกานิสถานยังถูกคุกคามด้วยภัยแล้งและการระบาดของโควิด-19  และเศรษฐกิจก็อยู่ในภาวะใกล้ล่มสลาย เพราะหลายประเทศและสถาบันระหว่างประเทศได้ระงับความช่วยเหลือและเงินแก่อัฟกานิสถาน และรัฐบาลสหรัฐฯอายัดทรัพย์สินของธนาคารกลางอัฟกานิสถานมูลค่า 9,500 ล้านดอลลาร์ที่อยู่ในสหรัฐฯอีกด้วย

ส่วนสถานการณ์ทั่วอัฟกานิสถานพบว่า ธนาคารส่วนใหญ่ปิดทำการ ตู้เอทีเอ็มเกือบทั้งหมดไม่มีเงินสดให้ถอน หน่วยราชการส่วนใหญ่ปิดทำการ แม้กระทั่งหน่วยงานด้านการอนุมัติหนังสือเดินทางและวีซ่า ธุรกิจค้าขายและบริการขนาดเล็กประสบปัญหามีลูกค้าน้อยลงและรายได้น้อยลง บางกิจการอย่างร้านตัดผมรายหนึ่ง วิตกว่าจะมีรายได้ไม่พอใจจ่ายค่าเช่าร้าน หากชาวบ้านไม่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติในเร็วๆนี้

ขณะเดียวกันราคาสินค้าประเภทอาหารพุ่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว เช่น แป้ง น้ำมัน และข้าวมีราคาสูงขึ้น 10-20% ภายในไม่กี่วัน

ส่วนอดีตข้าราชการคนหนึ่ง บอกว่า กำลังมีหนี้สินเพราะไม่ได้รับเงินเดือนมา 2 เดือนแม่ที่สูงอายุก็ป่วยและต้องการยา ครอบครัวที่มีเด็กๆด้วยต้องการอาหาร และต้องการความช่วยเหลือ

นอกจากนี้อดีตข้าราชการหลายคนก็กำลังหลบซ่อนตัว เพราะกลัวนักรบตาลีบันตามไล่ล่าเพื่อกำจัดคนที่เคยทำงานให้กับรัฐบาลชุดก่อน