ประธานาธิบดีโจ ไบเดน เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (24 ส.ค.) ว่า เขาบอกกับผู้นำกลุ่มประเทศ G7 ว่าสหรัฐฯ กำลังดำเนินการเพื่อการถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ส.ค. แต่การดำเนินการดังกล่าว จะต้องขึ้นอยู่กับความร่วมมือจากกลุ่มตาลีบันด้วย
ในการกล่าวสุนทรพจน์ทางโทรทัศน์หลังการประชุม G7 ไบเดนบอกว่ากลุ่มตาลีบันจะต้องไม่ขัดขวางปฏิบัติการของสหรัฐฯ หรือการเข้าถึงสนามบินคาบูล เพื่อให้ทันกำหนดเส้นตาย
" ผมได้ขอให้เพนตากอนและกระทรวงการต่างประเทศมีแผนฉุกเฉินในการปรับตารางเวลา หากจำเป็น "
ไบเดนส่งทหารสหรัฐหลายพันนายไปยังสนามบินคาบูล หลังจากกลุ่มติดอาวุธตาลีบันเข้ายึดครองเมืองหลวงและส่วนใหญ่ของประเทศ เมื่อไม่ถึงสองสัปดาห์ก่อน
ทหารสหรัฐเกือบ 6,000 นายกำลังช่วยอพยพพลเมืองอเมริกันและชาวอัฟกันที่มีความเสี่ยง รวมทั้งปกป้องสนามบินเพื่อให้ประเทศอื่น ๆ สามารถอพยพพลเมืองของตนออกมาได้เช่นกัน
เจ้าหน้าที่ของสหรัฐฯเปิดเผยว่า เมื่อวันจันทร์ เพนตากอนได้ให้คำแนะนำว่าไบเดน
ควรจะคงเป้าหมายของการถอนทหาร คือวันที่ 31 ส.ค. ต่อไป
ไบเดนยังบอกอีกว่า เขาตระหนักดีถึง "ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้น" ในการคงทหารสหรัฐในอัฟกานิสถานไว้หลังวันที่ 31 สิงหาคม และอ้างภัยคุกคามจากกลุ่ม "ISISK" ซึ่งเป็นกลุ่มในเครือของกลุ่มไอเอส
" ทุกวันที่เราอยู่ในพื้นที่ ก็เป็นอีกวันที่เรารู้ว่า ISISK พยายามกำหนดเป้าหมายที่สนามบิน และโจมตีทั้งกองกำลังสหรัฐฯ , พันธมิตร และพลเรือนผู้บริสุทธิ์ "
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บอกว่า สหรัฐฯ มีการติดต่อกับกลุ่มตาลีบันเป็นประจำ และเจ้าหน้าที่กำลังบอกกับทางกลุ่มว่า ไทม์ไลน์ต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับความร่วมมือของตาลีบัน
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และแหล่งข่าวที่คุ้นเคยกับกิจกรรมของรัฐบาลบอกกับสำนักข่าวต่างประเทศเมื่อวันอังคารว่า ไบเดนส่งวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอไปพบกับอับดุล กานี บาราดาร์ ผู้นำกลุ่มตาลีบันในกรุงคาบูลเมื่อวันจันทร์ ซึ่งถือเป็นมาเจอกันอย่างเป็นทางการระดับสูงสุดนับตั้งแต่กลุ่มติดอาวุธเข้ายึดเมืองหลวงอัฟกานิสถาน
แหล่งข่าวในรัฐสภาบอกว่าเบิร์นส์และบาราดาร์ได้มาหารือกันเรื่องการถอนทหารวันที่ 31 ส.ค.
แกนนำกลุ่มตาลีบัน บอกเมื่อวันอังคารว่า พวกเขาต้องการให้การถอนทหารต่างชาติ
ทั้งหมดเสร็จสิ้นภายในวันที่ 31 ส.ค.นี้ และพวกเขาจะไม่ตกลงที่จะขยายเวลาในขณะ
ที่ผู้นำกลุ่มประเทศ G7 พบปะเพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์
ปัจจุบัน กองทหารชาติตะวันตกกำลังทำงานอย่างหนัก เพื่อนำชาวต่างชาติและชาวอัฟกันขึ้นเครื่องบินเดินทางออกนอกประเทศ ขณะที่ไบเดนก็ต้องเผชิญกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากพันธมิตรให้เจรจาเรื่องการขยายเวลาสำหรับการอพยพ