ผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยสำนักข่าวรอยเตอร์และบริษัทวิจัยการตลาดอิปซอสเมื่อวันจันทร์พบว่า มีผู้ใหญ่อเมริกัน 46% พอใจผลงานการบริหารประเทศของไบเดน ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดจากการสำรวจประจำสัปดาห์ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ไบเดนเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนม.ค. และลดลงจาก 53% ในการสำรวจที่จัดทำเมื่อวันศุกร์
ความนิยมของไบเดนตกต่ำลงหลังจากนักรบตาลีบันสามารถเข้ายึดกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน ทำให้การทำสงครามในอัฟกานิสถานนาน 20 ปีของกองทัพสหรัฐฯต้องสูญเปล่า สูญเสียเงินภาษีของชาวอเมริกันราว 2 ล้านล้านดอลลาร์ และสูญเสียชีวิตชาวอเมริกันหลายพันราย
แต่ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้งทั้งจากพรรครีพับลิกันและเดโมแครตส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ความยุ่งเหยิงในอัฟกานิสถานบ่งชี้ว่าสหรัฐฯควรถอนตัวออกจากสงครามในประเทศนี้ได้แล้ว
นอกจากนี้อีกผลสำรวจหนึ่งของอิปซอสที่จัดทำในวันเดียวกันพบว่า มีชาวอเมริกันไม่ถึงครึ่ง หนึ่งพอใจการดำเนินนโยบายของไบเดนทั้งในแง่การทหารและการทูตในอัฟกานิสถานในปีนี้
คะแนนนิยมของไบเดนยังต่ำกว่าอดีตประธานาธิบดี 3 คนก่อนหน้านี้ที่บริหารประเทศในช่วงการทำสงครามที่ยาวนานที่สุดของประเทศ โดย 44% บอกว่า ไบเดนทำได้ดีในสงครามอัฟกานิสถาน ขณะที่ 51% พอใจการบัญชาการสงครามในสมัยของโดนัลด์ ทรัมป์ และบารัก โอบามา
ผลสำรวจของอิปซอส ยังพบว่า ชาวอเมริกัน 75% สนับสนุนการตัดสินใจส่งทหารเข้าไปสมทบเพื่อรักษาสถานที่สำคัญทางยุทธศาสตร์ในอัฟกานิสถานจนกว่าการถอนทหารจะเสร็จสิ้น และอีก 75% สนับสนุนให้อพยพชาวอัฟกันที่ทำงานช่วยเหลือกองทัพสหรัฐฯที่ประจำการในอัฟกานิสถาน
นอกจากนี้ชาวอเมริกันมีความเห็นแตกต่างกันในประเด็นว่ากองทัพควรถอนตัวออกจากอัฟกานิสถานเมื่อไหร่ โดย 68% ของผู้ตอบคำถามวัย 18-65 ปี เห็นว่า สงครามจะจบลงแบบเลวร้ายไม่ว่าสหรัฐฯจะถอนตัวออกมาเมื่อไหร่ และ 61% อยากให้สหรัฐฯถอนทหารให้เสร็จตามกำหนดการ ส่วนอีก 51% บอกว่า สหรัฐฯควรถอนทหารจากอัฟกานิสถานในอีก 1 ปีข้างหน้า และอีก 50% บอกว่า อยากให้ส่งทหารกลับไปสู้กับตาลีบัน
ขณะที่ผู้สนับสนุนรีพับลิกัน 60% และผู้สนับสนุนเดโมแครต 70% เห็นว่า การยอมจำนนของรัฐบาลอัฟกานิสถานต่อกลุ่มตาลีบันเป็นเหตุผลว่าทำไมสหรัฐฯควรถอนตัวจากสงครามนี้