ช่วงที่ผ่านมาจำนวนผู้อพยพทะลักเข้าสู่ยุโรปเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะโปแลนด์, ลิทัวเนีย และลัตเวีย โดยแต่ละประเทศมีจุดร่วมเดียวกันคือเกิดปัญหาด้านพรมแดนติดกับเบลารุส นำมาสู่ข้อกล่าวหาจากสหภายุโรปว่าเบลารุสกำลังผลักดันผู้อพยพออกนอกพรมแดน เพื่อเป็นการตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหภาพยุโรป
ช่วงวันจันทร์ที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีของโปแลนด์, ลิทัวเนีย, ลัตเวีย รวมถึงเอสโตเนีย เรียกร้องให้สหประชาชาติเข้าแทรกแซงข้อพิพาทเรื่องโยกย้ายถิ่นฐานในเบลารุส ทั้งสี่ชาติออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า “ประเด็นข่มขู่คุกคามผู้อพยพ” ควรถูกยกขึ้นมาพูดในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติและองค์รักษาสันติภาพระหว่างประเทศ
ด้านรัฐมนตรีกลาโหมของโปแลนด์ประกาศว่าจะมีการสร้างรั้วกั้นสูง 2.5 เมตร ขึ้นมาตามแนวชายแดนกับประเทศเบลารุส รวมทั้งเสนอให้มีการเพิ่มกองกำลังติดอาวุธเข้ารักษาการพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วย
ปัจจุบันมีกองกำลังทหารมากกว่า 900 นาย คอยป้องกันตามแนวพรมแดนโปแลนด์เป็นระยะทางกว่า 400 กิโลเมตรที่ติดกับเบาลารุส และตอนนี้พวกเขาขึงลวดหนามเป็นระยะทางกว่า 150 กิโลเมตรไว้แล้ว แต่ดูจะไม่เพียงพอเมื่อคิดถึงจำนวนผู้อพยพที่หลั่งไหลเข้ามา
ช่วงเดือนที่ผ่านมารัฐบาลโปแลนด์ออกมาแถลงตัวเลขของผู้ลักลอบข้ามแดนมีจำนวนถึง 1,935 คน ในจำนวนนี้มีการส่งกลับไปกว่า 1,175 คน และอีก 760 คนถูกส่งไปยังศูนย์อพยพชาวต่างชาติในโปแลนด์
ในปี 2020 มีผู้พยายามข้ามพรมแดนผิดกฎหมายจนถูกควบคุมตัวไปแล้วกว่า 122 คน จนตอนนี้พวกเขาต้องหาทางสกัดกั้นผลักดันผู้อพยพกลับไป
การกระทำเหล่านี้ทำให้เกิดการเผชิญหน้ากับเจ้าหน้าที่รักษาพรมแดนของเบลารุส เมื่อพบว่ามีภาพหลักฐานเจ้าหน้าที่ของทางเบลารุสในชุดปราบจลาจลรุกล้ำเข้าไปในดินแดนลิทัวเนีย เพื่อผลักดันผู้อพยพข้ามพรมแดนไปอย่างผิดกฎหมาย อีกทั้งความขัดแย้งตามแนวชายแดนระหว่างโปแลนด์และเบลารุส ยังทำให้ผู้อพยพชาวอัฟกัน 24 คนติดค้างนพื้นที่อยู่หลายวัน ทำให้ผู้อพยพติดอยู่ระหว่างความตึงเครียดของกองกำลังรักษาดินแดนทั้งสองชาติ
ในขณะที่ประธานาธิบดีลูคาเชนโก ออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหาและเน้นย้ำว่ามีการใช้ความรุนแรงในพรมแดนฝั่งเบลารุส ดังนั้นจากนี้เบลารุสจะไม่ขัดขวางการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมายอีกต่อไป แต่ปล่อยให้ผู้อพยพเข้าสู่เขตแดนของชาติสมาชิกสหภาพยุโรปโดยตรง
นอกจากโปแลนด์แล้ว ทางรัฐบาลลิทัวเนียเองก็ประกาศจะกั้นรั้วเป็นระยะทาง 508 กิโลเมตร ตามแนวชายแดนติดกับฝั่งเบลารุสภายในเดือนกันยายน 2565 นี้ ภายหลังช่วงปีที่ผ่านมามีผู้อพยพผิดกฎหมายชาวอิรักหลั่งไหลเข้าลิทัวเนียเป็นจำนวนกว่า 4,100 คน