23 สิงหาคม 2564 ที่โรงเก็บสินค้าการเกษตร โรงสีข้าว ส.ชัยเจริญ บ้านหนองทนง ต.บ้านไทร อ.ปราสาท นายเสริมศักดิ์ สีสันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เป็นประธานเปิดโรงพยาบาลสนาม “ปราสาทรวมใจรักษ์” อำเภอปราสาท โดยมี นายสินชัย ตันติรัตนานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุรินทร์ นายประภาส ศรีจันทร์เวียง นายอำเภอปราสาท พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการการ ในพื้นที่อำเภอปราสาท เข้าร่วมงาน ซึ่งโรงเก็บสินค้าเกษตรโรงสีข้าว ส.ชัยเจริญ จัดตั้งโรงพยาบาลสนามขนาด 600 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยในพื้นที่และรองรับผู้ป่วยที่จะเดินทางกลับมารักษาตัวยังภูมิลำเนา และได้นำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้ คือการนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในสถานการณ์โควิด
หุ่นยนต์สามารถพูดคุยผ่านกล้องได้ วิ่งส่งยาส่งของได้ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีสำหรับคนที่ไม่สามารถเดินมารับยาด้วยตัวเองและลดการสัมผัสกับผู้ป่วย จังหวัดสุรินทร์มีหุ่นยนต์ 3 ตัว โดยการสร้างของทีมวิทยาลัยการอาชีพอำเภอสังขะจังหวัดสุรินทร์ วิทยาลัยการอำเภออาชีพปราสาทสุรินทร์ วิทยาลัยอาชีวะจังหวัดสุรินทร์ และที่สำคัญโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ไม่ได้ใช้เงินจากภาครัฐเลย แต่ที่เกิดได้เพราะได้รับการสนับสนุนเงินและสิ่งของต่าง ๆ จากประชาชน จากพระ และจากห้างร้านต่าง ๆ จึงได้ชื่อว่าโรงพยาบาลสนาม “ปราสาทรวมใจรักษ์” อำเภอปราสาท จ.สุรินทร์
นายประภาส ศรีจันทร์เวียง นายอำเภอปราสาท กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อำเภอปราสาทตั้งแต่ 26 มิถุนายน - 19 สิงหาคม 2564 ที่อำเภอปราสาท มียอดผู้ป่วยสะสมยืนยัน 831 ราย รักษาหายแล้ว 432 ราย อยู่ระหว่างการรักษา 399 ราย มีผู้เสียชีวิตสะสม 5 ราย ซึ่งขณะนี้ยังคงพบการแพร่ระบาดของโรคอย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบในวงกว้างและมีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งจังหวัดสุรินทร์ได้จัดโครงการ Surin Back Home นำพี่น้องชาวสุรินทร์ที่ไปทำงานยังต่างจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการติดเชื้อสูง ทำให้มีผู้ป่วยประสงค์กลับมารักษาตัวยังภูมิสำเนาจำนวนมาก ส่งผลให้เกินขีดความสามารถของโรงพยาบาลประจำอำเภอ ซึ่งขณะนี้เตียงไม่เพียงพอ
ทางอำเภอปราสาทจึงได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนามที่ชื่อว่า “ปราสาทรวมใจรักษ์” เบื้องต้นจำนวน 600 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่วยที่อยู่ในพื้นที่และที่จะกลับมาในโครงการ Surin Back Home ในอนาคต โดยพื้นที่โรงพยาบาลสนามแห่งนี้ พื้นที่สามารถขยายได้ไปจนถึง 1,600 เตียงซึ่งโรงพยาบาลสนามแห่งนี้ เกิดขึ้นโดยความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน คณะสงฆ์ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษา และพี่น้องประชาชน ร่วมกันบริจาค ทั้งเตียงนอน ที่นอน หมอน มุ้งครอบ พัดลม ระบบสาธารณูปโภค ระบบไฟฟ้า ประปา ห้องน้ำห้องสุขา ระบบการสื่อสาร และได้นำนวัตกรรมใหม่ๆเข้ามาใช้ เช่นนำหุ่นยนต์มาใช้ในสถานการณ์โควิดฯครั้งนี้
โดย - วิจิตร ชุณหกิจขจร