เหตุการณ์เดิมๆ ที่เห็นตั้งแต่หลังรัฐประหาร คือประชาชนที่ต้องการเงินสดต้องไปเข้าคิวรอหน้าตู้ ATM เช้าขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดคือเวลา 03.30 น. และจำนวนคนที่เข้าคิวก็มากกว่า 300 คน และแม้ช่วงเที่ยงที่อุณหภูมิสูงแตะ 38 องศาเซลเซียส คนก็ยังยืนรอด้วยความหวังว่าจะเหลือเงินสดให้ถอน ขณะที่ค่าเงินจ๊าตก็ดิ่งลงไป 20% เมื่อเทียบกับดอลลาร์
มีตู้ ATM ไม่ถึง 100 ตู้ทั่วประเทศ ที่มีเงินสดให้ถอนในแต่ละวัน เกิดการกักตุนเงินสด
ธุรกิจจำนวนมากรับเฉพาะเงินสดไม่รับการทำธุรกรรมการเงินดิจิตอล รัฐบาลทหารได้แก้ปัญหาด้วยการสุ่มเลือกตู้ ATM เพื่อนำเงินสดไปใส่ไว้ทุกวัน แต่จะถอนได้ไม่เกินวันละ 120 ดอลลาร์ หรือราว 4,000 บาท
ชาวเมียนมาที่อยู่ในเมืองต่างรู้สึกว่าการไปเข้าแถวหน้าตู้ ATM เป็นการปล่อยเวลาให้เสียเปล่าแต่ก็ไม่มีทางเลือก แต่ในชนบทเกษตรกรได้หันไปใช้วิธีแลกเปลี่ยนอาหารที่พวกเขาปลูกกับอาหารอย่างอื่น แต่บางคนจำต้องแลกของรักของหวงอย่างรถมอเตอร์ไซค์ หรือกล้องถ่ายรูปกับถังออกซิเจน เพราะได้ชื่อว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุดในเวลานี้ ซึ่งรัฐบาลทหารได้ถือโอกาสโทษว่าเป็นเพราะการระบาดของโควิด-19 และบอกว่าจะเร่งสะสางปัญหาขาดแคลนเงินสดภายในเดือนนี้