svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ศุภชัย บอกเอง "ป้ายรมต.มอบไฟเซอร์"มีจริง แต่ถูกปลดออกก่อนเริ่มงาน

08 สิงหาคม 2564
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ภูมิใจไทย ยัน "ป้ายรมต.มอบไฟเซอร์" แต่ถอดออกก่อน "อนุทิน"ไปงาน ระบุ เจ้าของสถานที่เห็นว่าไม่เหมาะสม ฉะ พวกปั่นข่าว พอความจริงปรากฏ คนกลุ่มเดิม ก็หาเรื่องใหม่มาด่าต่อ ชี้ เล่นการเมืองน้ำเน่าสกปรก

วันนี้ (8 ส.ค.64) นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงปมดรามาเรื่องป้ายรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มอบไฟเซอร์ ซึ่งปรากฏในโลกออนไลน์ ต่อมามีการวิจารณ์ที่ตัวรัฐมนตรีอย่างมาก ก่อนที่จะมีการเปิดเผยว่า ป้ายดังกล่าวไม่เคยมีอยู่ในงาน และรัฐมนตรี ไม่ทราบเรื่องป้ายที่กำลังเป็นประเด็น ว่า  มีชีวิตได้ เพียงเพราะได้ด่าผู้อื่น ประเด็นดรามาเรื่อง “ป้ายรมต.มอบไฟเซอร์” เมื่ออ่านข้อมูลครบถ้วน ก็ไม่มีอะไรมากกว่าการเล่นการเมืองสกปรก ของพวกขี้แพ้ซ้ำซาก ที่จับเอาทุกประเด็นมาโจมตีรัฐบาล โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง หวังเพียงแต่สร้างเรื่องดรามา ให้เป็นกระแส ได้สนุกสนานครื้นเครง แล้วก็จบไป

 

อันที่จริง เรื่องของเรื่อง ก็เป็นแค่ความหวังดีของเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติงาน ที่ต้องการให้เกียรติรัฐมนตรีที่มามอบวัคซีน แล้วก็ทำป้าย มูลค่าป้ายที่ทำไม่เกิน 50 บาทแน่นอน แต่ที่สุดแล้ว ป้ายนั้นก็เอาลง ไม่ได้ใช้ เพราะทางฝ่ายสถานที่เห็นว่าไม่เหมาะสม ในงานก็ไม่มีป้ายนั้นปรากฏอยู่ ตอนรัฐมนตรีมาถึง ก็ไม่มีการขึ้นป้ายที่ว่า เรื่องมีแค่นี้ เปรียบเทียบเหมือน เราทำงานมาเสนอหัวหน้า หัวหน้าไม่เอา ก็ตัดออก จบ

แต่สำหรับฝ่ายการเมืองสายปลุกปั่นสังคม พอเห็นภาพนี้ ก็เอามาแต่งเรื่องราวใหม่ บิดเบือน สร้างความเข้าใจผิดแก่สังคม เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏ คนกลุ่มเดิม ก็หาเรื่องใหม่มาด่าต่อเรื่อยๆ นี่คือการเมืองน้ำเน่าสกปรก

 

ยกตัวอย่างเช่น การที่คนของฝ่ายปลุกปั่นไปเคลมว่าตัวเอง มีส่วนในการนำไฟเซอร์ จากสหัฐฯ เข้ามา พอทางการสหรัฐฯ แถลง ว่าไม่จริง พวกเขาก็เงียบ ยิ้มแหะๆ แล้วก็จากไป ต่อมาพวกเขาบอกว่า จะหาไฟเซอร์เข้ามาในเดือนกรกฎาคม พูดจนหุ้นในกลุ่มพวกเขาพุ่งเอาๆ แต่เมื่อทำไม่ได้ พวกเขาก็เงียบ ยิ้มแหะๆ แล้วก็จากไปจากนั้น เมื่อตำรวจ ที่มีหน้าที่รับผู้ป่วยได้ฉีดวัคซีนเข็ม 3 พวกเขา ตั้งหน้าตั้งตาด่า

แต่เมื่ออาสาในกลุ่มพวกเขาได้รับ พวกเขาก็เงียบ ยิ้มแหะๆ แล้วก็จากไป มีกี่เรื่องแล้ว ที่คนกลุ่มนี้ เอาแต่วิจารณ์โดยไม่สนใจข้อเท็จจริง

 

หลายครั้งการด่าของเขา ไปกระทบกับคนทำงาน ไปกระทบกับการทำงาน แต่ถามว่าเขาเคยสำนึกหรือไม่

 

เขาเชื่อว่าสังคมไทยขับเคลื่อนด้วยการด่า การด่าของพวกเขาช่างมีพลัง การด่าและพลังงานด้านลบนั้น ไม่ใช่แรงผลักให้คนทำงานลงมือทำ เพราะต่อให้ไม่มีแรงด่า เขาก็ต้องทำทุกอย่างไปตามแผนอยู่แล้ว

 

แต่การด่าทอ การบิดเบือนทั้งหลาย มันเป็นขุมพลังงาน ให้กลุ่มการเมืองเลวๆ พรรคการเมืองเลวๆ ได้มีชีวิตอยู่ต่อไป เท่านั้นเอง เป็นการทำงานการเมืองที่แสนสกปรก และไร้ค่าสิ้นดี #การเมืองใหม่ที่แสนสกปรก

logoline