วันนี้ (6 ส.ค.64) น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงความคืบหน้าเพื่อช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัด ศธ.ทั้งภาครัฐ และเอกชน ว่า ให้สำนักงบประมาณดำเนินการตรวจสอบรายละเอียด เพื่อทำการจัดสรรเงินให้กับศธ.ได้มอบหมายให้นายสุภัทร จำปาทอง ปลัด ศธ. ไปดำเนินการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด หากสำนักงานงบประมาณ จัดทำรายละเอียดและจัดสรรเงินมาให้ ศธ.แล้ว จากนั้น ก็จะทำการตรวจสอบข้อมูล เพื่อจัดสรรเงินงบประมาณลงไปยังสถานศึกษาทันทีคาดว่าภายในวันที่ 31 สิงหาคม – ต้นเดือนกันยายน นี้ สถานศึกษาจะได้รับเงิน และทำการโอนเงินเยียวยา จำนวน 2,000 บาท ให้นักเรียนและผู้ปกครองต่อไป
“ส่วนการจ่ายเงิน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กำชับว่า ศธ.ต้องเร่งดำเนินการลดความเดือดร้อนของนักเรียน และผู้ปกครองให้เร็วที่สุด ดังนั้น การจ่ายเงินจะต้องรวดเร็วด้วย โดยพบว่าช่องทางการจ่ายเงินตามฐานข้อมูล การจ่ายเงินอุดหนุนรายหัวของนักเรียน ซึ่งศธ.มีข้อมูลอยู่ ซึ่งจะทำให้ส่งเงินถึงสถานศึกษาได้เร็วที่สุด” น.ส.ตรีนุช กล่าว
นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้จัดทำแนวทางลดภาระครูและนักเรียน เบื้องต้น จะลดเวลาการทำงานของครู ปรับลดโครงการต่าง ๆ ให้เหลือเพียง 1% จากเดิม สพฐ.มีโครงการให้ครูและโรงเรียนปฏิบัติหลายร้อยโครงการ หรือการนับเวลาเรียนรูปแบบใหม่ จากเดิมจะนับจากการเรียนในห้องเรียนเท่านั้น แต่ขณะนี้การเรียนการสอนเปลี่ยนไปหลายรูปแบบ เช่น ออนไลน์ ออนแอร์ เป็นต้น ดังนั้น การนับเวลาเรียนก็ต้องเปลี่ยนไปตามการเปลี่ยนแปลงด้วย
“อีกทั้งจะมีการการปรับเปลี่ยนเรื่องการใช้งบต่าง ๆ โดยเฉพาะงบอุดหนุนรายหัวในบางรายการ ที่เดิมกำหนดไว้ชัดเจนว่าจะต้องใช้จ่ายเรื่องนี้เท่านั้น ก็ต้องปรับให้มีความยืดหยุ่นเพื่อให้สถานศึกษานำไปลดภาระครูต่อไป ทั้งนี้การปรับงบบางรายการต้องขออนุมัติจาก คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดังนั้น ศธ.จะเร่งทำเรื่องให้ ครม.พิจารณาโดยเร็ว ส่วนงบไหนที่ ศธ.สามารถปรับแก้ระเบียบเองได้ จะเร่งเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.)พิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็ว เพื่อให้ครูมีความยืดหยุ่นสามารถปรับใช้พัฒนาการเรียนการสอนได้ทันที” น.ส.ตรีนุช กล่าว
ทั้งนี้ครม. มีมติเห็นชอบให้ความช่วยเหลือบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านการศึกษา ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ของโรงเรียนในสังกัด ศธ. และสังกัดอื่น ๆ เพื่อช่วยเหลือนักเรียน นักศึกษา ที่กำลังศึกษาอยู่ในสถานศึกษาสังกัด ศธ.ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ และไม่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐ และสถานศึกษานอกสังกัด ศธ.ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ชั้นอนุบาล-ม.6 และอาชีวศึกษา ในอัตรา 2,000 บาทต่อคน โดยจ่ายผ่านสถานศึกษา และให้สถานศึกษาจ่ายตรงให้นักเรียน นักศึกษา หรือผู้ปกครอง 11 ล้านคน วงเงิน 21,600 ล้านบาท