พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เปิดเผยว่า ปัจจุบันได้มีความสนใจใช้ยาสมุนไพรมากขึ้น และมีแนวโน้มจะหายาก โดยเฉพาะฟ้าทะลายโจรที่ขาดตลาดอย่างมาก เนื่องจากเป็นอีกทางเลือก ในการป้องกันและรักษาเชื้อไวรัสโควิด
เบื้องต้นนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้มีนโยบายส่งเสริมและพัฒนาแหล่งปลูกพืชสมุนไพร ภายในสถานที่ควบคุม เพื่อใช้ในการป้องกัน และดูแลสุขภาพของประชาชน โดยอนุรักษ์พืชสมุนไพรไว้ใช้ประโยชน์ และนําพืชสมุนไพรมาแปรรูปเป็นอาหารสุขภาพ รวมถึงเป็นยารักษาโรค
จึงสั่งการให้มีการจัดทำโครงการส่งเสริมและพัฒนาการปลูกพืชสมุนไพร สําหรับเด็กและเยาวชนภายในสถานที่ควบคุม ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในศูนย์ฝึก สถานพินิจที่มีพื้นที่เหมาะสม เพาะผลิตเมล็ดพันธุ์ หรือต้นกล้าแจกจ่ายให้กับประชาชนในชุมชน และส่งเสริมให้ศูนย์ฝึก หรือสถานพินิจ เรียนรู้การใช้สมุนไพร เพื่อป้องกันและรักษาโรค
โดยจะใช้ศูนย์ฝึกและอบรมเด็กเยาวชน 20 แห่ง สถานพินิจและคุ้มครองเด็กเยาวชนที่มีแรกรับ 36 แห่ง รวมพื้นที่เพาะปลูกกว่า 50 ไร่
กรมพินิจฯ ได้ติดต่อประสานขอความเมล็ดพันธุ์ และต้นกล้าสมุนไพร ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร กระชายขาว ขมิ้นชัน ขิง จากกรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ศูนย์ฝึกฯ และสถานพินิจฯ ประสานสํานักวิจัยและพัฒนาการเกษตรในพื้นที่
ทั้งนี้ ศูนย์ฝึกฯ และสถานพินิจฯ สามารถประสานเกษตรจังหวัด หรือเกษตรอําเภอ เพื่อศึกษาเรียนรู้การเพาะปลูกพืชสมุนไพรได้ และจะจัดสรรเมล็ดพันธุ์พืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ให้กับศูนย์ฝึกและอบรมเด็กและเยาวชน เพื่อเพาะปลูกขยายพันธุ์พืชในพื้นที่หน่วยงาน
นอกจากนี้ ในวันที่ 3 ส.ค.กรมพินิจฯ จะจัดอบรมออนไลน์ให้กับเจ้าหน้าที่ทั่วประเทศ เรื่องวิธีการเลือกซื้อและทานยาฟ้าทะลายโจรแบบถูกต้อง และสัปดาห์ถัดไป จะจัดอบรมออนไลน์การปลูกฟ้าทะลายโจรให้กับข้าราชการและเจ้าหน้าที่ต่อไป