จากกรณีที่หลวงปู่พุทธะเทพสุริยะจักรวาล หรือนาย สายัณห์ แก้วหมั่น อายุ 40 ปี ภูมิลำเนา อ.ลำทับ จ.กระบี่ ถูกกล่าวหาว่าหลอกลวงชาวบ้านให้หลงศรัทธา งมงาย จนต้องยอมเสียเงินสร้างสำนักอยู่ใน อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย และมีการกล่าวหาว่า เคยไปข่มขืนหญิงสาวจนตั้งท้องด้วย โดยเจ้าตัวบอกว่าไม่ใช่เรื่องจริงและท้าให้แจ้งความ ขณะที่ชาวบ้านที่เลื่อมใสศรัทธา ระบุว่า หลวงปู่ฯไม่ทำให้ชาวบ้านต้องเดือดร้อน ซ้ำยังสอนให้เป็นคนดี จึงมีคนมาเลื่อมใส ศรัทธาจำนวนมาก
21 เมษายน 2564 ผู้สื่อขาวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 140 ม.8 ต.ลำทับ อ.ลำทับ จ.กระบี่ ซึ่งเป็นบ้านพ่อแม่ของหลวงปู่พุทธะ เทพสุริยะจักรวาล โดยได้พบกับนางสุดใจ แก้วหมั่น อายุ 64 ปี และนายเทือง แก้วหมั่น อายุ 65 ปี พ่อแม่ของหลวงปู่พุทธะ ซึ่งทั้งสอง นั่งอยู่ที่ขนำข้างบ้าน และมีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด โดยมีเพื่อนบ้านใกล้เคียง และญาติมาคอยให้กำลังใจ
ด้านนางสุดใจ แม่ของหลวงปู่พุทธะ กล่าวว่า ข่าวที่ออกมาผ่านสื่อต่างๆ นั้นทำให้ตนรู้สึกเครียดเป็นอย่างมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับ ที่ผ่านมา ลูกชายก็ขาดการติดต่อกับครอบครัวมานานแล้ว หลังลูกชายเรียนจบชั้นประถมปีที่ 6 อายุประมาณ 18 ปี ก็ไปบวชพระที่จ.พัทลุง และจ.สงขลา หลังสึกแล้วก็กลับมาบ้าน 2-3 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดกลับมาในชุดห่มดำ แต่ครอบครัว ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะเป็นความเชื่อความศรัทธาของเขา
แต่การพูดจาก็สำรวม และเทศนาให้ญาติพี่น้องฟัง ไม่มีปาฏิหาริย์อะไร จากนั้นก็ขาดการติดต่อไปเลย จนกระทั่งมาทราบจากสื่อว่าลูกชายไปหลอกลวงชาวบ้าน และถูกกล่าวหาให้ร้ายต่างๆนานา ทำให้คนเป็นพ่อแม่ถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะกังวลเรื่องลูกชาย หากไปทำอะไรไม่ดีจริงก็ขอให้ผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดีไปเลย อย่าได้กล่าวหากันแบบนี้
นางสุดใจกล่าวอีกว่า ตอนที่ลูกชายอยู่บ้านนั้นเป็นคนนิสัยเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป ชอบไปเที่ยวตามป่าเขา ไปหากล้วยไม้ และเป็นที่รักของชาวบ้านญาติพ่อน้อง หลังจากที่ไปบวชพระกลับมาการพูดจาก็สำรวม และไม่ได้มีการนำเครื่องรางของขลังมาใช้แต่อย่างใด การที่มีข่าวลูกชายไปหลอกลวงชาวบ้านนั้นก็ไม่เชื่อจะเป็นความจริง เพราะเมื่อครั้งที่กลับมาบ้านนั้นก็จะไม่ยอมรับเงินที่ญาติๆรวบรวมมาให้ด้วยซ้ำจะให้นำไปสร้างกำแพงวัด หรือใช้จ่ายส่วนรวม ส่วนกรณีที่มีการกล่าวหาว่าลูกไปทำผู้หญิงจนท้องนั้นก็ไม่เชื่อเช่นกัน เพราะตอนที่ลูกชายกลับมาบ้าน เขาพยายามตัดขาดจากพี่น้อง โทรศัพท์ก็ไม่ใช้เลย
ด้านนางสาวอาทิติยา แก้วหมั่น อายุ 42 ปี พี่สาวหลวงปู่พุทธะฯ กล่าวว่า ตอนที่เห็นน้องชายที่กลับมาบ้าน ตนก็รับไม่ได้ แต่หลังจากที่น้องชาย บอกเหตุผล และเทศนาให้ฟัง ถึงเรื่องของการที่จะบรรลุธรรม ไม่ได้อยู่ที่เครื่องแต่งกาย แต่อยูที่จิตใจ และขอฝากไปยังสื่อต่างๆ อย่าพยามนำเสนอด้านลบ หรือขุดคุ้ยเรื่องที่ไม่ดี การที่น้องชายหลบสื่อก็เพราะไม่อยากวุ่นวาย เพราะคนในครอบครัวที่ติดตามอยู่ โดยเฉพาะพ่อและแม่ เครียดมากจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ อย่าไปเสาะแสวงข่าวลือมา หรือจ้องจะจับผิดน้องชายตน ถ้าหากมีหลักฐานก็แจ้งความดำเนินคดีไปเลย เรื่องจะได้จบ
นอกจากนี้ยังฝากไปยังหมอปลา และพระมหาไพรวัลย์ว่า "คุณเป็นใคร มันใช่หน้าที่คุณหรือ คุณเดือดร้อนหรือ ?" เขาไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ ถ้าเป็นเรื่องไม่จริงก็อย่ากล่าวหากัน พอได้แล้ว แต่ถ้ามีหลักฐานก็ให้ไปแจ้งความเลย