15 มีนาคม 2564 ความคืบหน้ากรณีนางยุวรีย์ งานหมั่น กราบป้ายสถานีตำรวจภูธรชนบท อ.ชนบท จ.ขอนแก่น เมื่อเย็นวันที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้ลูกสาวและครอบครัว หลังลูกสาววัย 27 ปี ถูกนายปิ๊ก หรือนายอเนก โคตรดา อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.8 บ้านหนองสะแบง ต.ห้วยแก อ.ชนบท จ.ขอนแก่น ลวงออกจากบ้านไปที่บ้านพักและอยู่ด้วยกันทั้งคืน จนเช้าวันที่ 13 มีนาคม มารดาและญาติพี่น้องตามพบที่บ้านนายปิ๊ก สอบถามจนได้ทราบความจริงว่า ทั้งคู่มีเพศสัมพันธ์กัน มารดาและญาติพี่น้องจึงรับตัวลูกสาวกลับบ้านและพาเข้าแจ้งความที่ สภ.แวงใหญ่ และได้เข้าแจ้งความที่ สภ.ชนบท อีกที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ที่โรงพยาบาลแวงใหญ่แนะนำ มารดาและญาติจึงพาลูกสาวเดินทางไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชนบท เพื่อแจ้งความและขอให้ส่งลูกสาวไปตรวจร่างกายที่ รพ.ชนบท เมื่อตรวจร่างกายเรียบร้อย จึงพากันมาพบพนักงานสอบสวนสภ.ชนบท มีการพูดคุยกัน ซึ่งสุดท้ายฝ่ายมารดาและญาติเข้าใจว่าตำรวจไม่รับแจ้งความ มารดาจึงไปกราบป้ายหน้า สภ.ชนบทและในกรณีดังกล่าว
ล่าสุด พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกูล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ได้กล่าวถึงคดีนี้ว่า หลังจากที่ผู้เสียหายได้เข้ามาแจ้งความที่ สภ.แวงใหญ่ โดยพนักงานสอบสวนได้มีหมายเรียกให้นายปิ๊ก เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนในวันที่ 15 มี.ค. 64 ส่วนผู้เสียหายได้นำตัวไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลชนบท เพื่อให้แพทย์ออกใบรับรองผลการตรวจมาประกอบคดี
ในส่วนคดีความก่อนหน้านี้ได้แจ้งข้อกล่าวหา พาผู้อื่นไปในการอนาจาร, ข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งไม่ไม่ภรรยาของตนเอง ในวันนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งกล่าวเพิ่มอีก 2 ข้อกล่าวหาคือ กักขังหน่วงเหนี่ยว และเสพยาเสพติด หลังจากตรวจร่างกายพบสารเสพติดในร่างกายของนายปิ๊ก ซึ่งได้นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพลแล้ว ในส่วนของ สภ.ชนบท ทางตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่น ให้ติดตามผลตรวจร่างกายของผู้เสียหายแล้วให้ประสานกับ สภ.แวงใหญ่ เพื่อที่จะนำผลการตรวจ มาใช้เป็นหลักฐานประกอบในการดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น อาจจะเกิดขึ้นได้หลายพื้นที่ จะได้มีการกวดขันให้พนักงานสอบสวน ได้ใช้เวลาอธิบายกับผู้ที่เข้ามาใช้ร้องทุกข์ได้เข้าใจถึงกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทางตำรวจภูธรจังหวัดขอนแก่นจะได้ถอดบทเรียนจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ปรับให้มีการพัฒนาการให้บริการของพนักงานสอบสวนได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะการอธิบายให้ผู้มาร้องทุกข์ได้เข้าใจ