เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ร.ต.อ.วีระชน ปรากฎมาก รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 111 ม.7 ต.กันทรารมย์ อ.กระสัง จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับขั้น พร้อมประสานแพทย์เวรฯ โรงพยาบาลกระสัง และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธร จ.บุรีรัมย์ และได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผู้กำกับการ สภ.กระสัง
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ จุดเกิดเหตุเป็นชั้นล่างบริเวณหน้าทีวี พบศพ น.ส.จันทร์จิรา พินิจรัมย์ หรือกี้ อายุ 23 ปี นอนหงายเสียชีวิตในสภาพเลือดท่วมตัว จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นถูกกระสุนปืนยิงเข้าบริเวณชายโครงทั้งสองข้าง และตามลำตัวรวม 4 นัด ทั้งพบปลอกกระสุนปืนกล็อก 19 ขนาด 9 มม. ตกกระจายเกลื่อนจุดเกิดเหตุจำนวน 4 ปลอก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่นางแต๋ว พินิจรัมย์ อายุ 65 ปี แม่ผู้เสียชีวิต ซึ่งเห็นเหตุการณ์ลูกสาวถูกยิงเสียชีวิตต่อหน้าต่อตาก็ถึงกับเป็นลมล้มพับ เพื่อนบ้านต้องช่วยกันปฐมพยาบาล และประคองตัวออกจากจุดเกิดเหตุ เพราะกลัวจะช็อกหมดสติ โดยนางแต๋ว ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ว่าคนที่ก่อเหตุยิงลูกสาว คือ นายสุริชัย อังกูรเจริญพร หรือนิว อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นเสี่ยเจ้าของร้านรับทำเบาะที่จ.ระยองและเป็นลูกเขยของตัวเอง ที่เป็นคนลั่นไกยิงลูกสาวเสียชีวิต
จากนั้น พ.ต.อ.วิษณุ อาภรณ์พงษ์ ผู้กำกับการ สภ.กระสัง จึงได้สั่งการให้ตั้งจุดสกัดทุกเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี กระทั่งเวลาประมาณ 21.00 น. หลังเกิดเหตุเพียงประมาณ 1 ชั่วโมง ก็สามารถสกัดจับตัวนายสุริชัย ผู้ก่อเหตุได้ขณะขับรถยนต์ ยี่ห้อ โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ ทะเบียน 3กช -2020 กทม. ผ่านมาทางถนนหน้าโรงพักเพื่อจะหลบหนี พร้อมอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุอยู่บริเวณที่วางเท้าภายในรถ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ได้ควบคุมตัวนายสุริชัย ไปสอบสวนที่โรงพัก
ซึ่งจากการสอบสวนเบื้องต้นนายสุริชัย ก็ยอมรับสารภาพว่าได้ก่อเหตุยิง น.ส.จันทร์จิรา ภรรยาของตัวเองจริง เนื่องจากระแวงว่าภรรยาจะปันใจให้ชายอื่นจนเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง จึงโมโหแล้วชักอาวุธปืนที่พกติดตัวมาด้วยออกมากระหน่ำยิงภรรยาจนเสียชีวิต
สอบถามนายประยูร พินิจรัมย์ พ่อผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลังจากลูกสาวเลิกรากับสามีเก่าประมาณปี กว่า ก็มาคบหากับนายสุริชัย ผู้ก่อเหตุและเพิ่งจะแต่งงานกันเมื่อปลายเดือน ต.ค.2563 ที่ผ่านมา หลังแต่งงานลูกสาวก็ไปอยู่กับกินกับนายสุริยา ที่ จ.ระยอง โดยช่วงที่อยู่กับสามีลูกสาวก็จะโทรศัพท์มาบอกแม่ว่ามีปากเสียงกับนายสุริชัย บ่อยครั้ง เพราะนายสุริชัย เป็นคนขี้หึงชอบระแวงว่าลูกสาวตนเองจะนอกใจ แต่ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานายสุริชัย ลูกเขยก็เดินทางมาที่บ้านพร้อมกันลูกสาวตัวเอง มาอยู่ประมาณ 1 อาทิตย์ นายสุริยา ก็กลับไปทำงานที่ จ.ระยอง ส่วนลูกสาวก็อยู่บ้านต่อไม่ได้ไปด้วย
กระทั่งก่อนเกิดเหตุประมาณ 1 ทุ่มครึ่ง นายสุริยา ลูกเขยก็ขับรถมาที่บ้านโดยที่ไม่บอกให้ใครรู้ บอกว่าจะมาเคลียร์ปัญหากับ น.ส.จันทร์จิรา ตนจึงปล่อยให้ทั้งคู่คุยกันแต่ก็ได้ยินเสียงทะเลาะกัน ผ่านไปประมาณ 10 นาทีก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4 นัดตกใจมาก จึงรีบวิ่งมาดูก็เห็นลูกสาวนอนเสียชีวิตจมกองเลือดแล้ว ส่วนลูกเขยก็ขับรถหลบหนี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรับไม่ได้และไม่ให้อภัยนายสุริชัย อย่างเด็ดขาด เพราะฆ่าลูกสาวตนเองอย่างโหดเหี้ยม กระหน่ำยิงตั้งหลายนัดทั้งที่ไม่มีทางสู้ แถมก่อเหตุต่อหน้าแม่ยาย และลูกสาวติดภรรยาวัยเพียง 4 ขวบโดยไม่สะทกสะท้านเลย ก็อยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ตั้งข้อหานายสุรชัย 2 ข้อหา "ฆ่าคนตายโดยเจตนา ,มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครัวโดยผิดกฎหมาย"