รวบคาผ้าเหลือง"แอดมิน"แบล็คเมล์แฟนสาวสวิงกิ้ง
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
พิษณุโลก - จับคาผ้าเหลือง แอดมินหนุ่มวัย 21 ปี ตั้งกล้องแอบถ่ายมีเพศสัมพันธ์กับแฟนสาว ก่อนนำคลิปมาแบล็คเมล์ ให้ร่วมเพศแบบสวิงกิ้งในกลุ่มโซเซียล เพื่อหารายได้ เผยมีผู้ตกเป็นเหยื่อแล้วหลายพื้นที่ ด้านพ่อเหยื่อใจสลายคลิปอนาจารลูกสาวว่อน
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 13 ตุลาคม 2563 ที่สภ.เมืองพิษณุโลก พล.ต.ต.พยูห์ ธนะศรีสืบวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร และ นางเอื้องดอย นางเอื้องดอย กีรติบริบูรณ์ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิษณุโลก ได้ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม ADMIN จัดสวิงกิ้ง หารายได้จากการขายคลิปในโลกออนไลน์
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 กันยายน 2563 ได้มี พ่อของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ชาว จ.พิจิตร ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงาน สอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ว่าบุตรสาวได้ถูกนายเอ็ม (นามสมมุติ)อายุ 21 ปี บ้านอยู่ ม.1 ต.วังสำโรง อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ผู้ต้องหา ได้ข่มขืนใจ กักขังหน่วงเหนียว ทำร้ายร่างกาย และพา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเรา ในลักษณะกลุ่ม (สวิงกิ้ง) โดยนายเอ็ม (นามสมมุติ)ได้ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ถูกกระทำชำเราไว้
จากนั้นได้นำภาพและภาพเคลื่อนไหวไปเผยแพร่และโฆษณาในแอพพลิเคชั่นทวิตตอร์ และกลุ่มไลน์ เพื่อหารายได้ ที่นายเอ็ม (นามสมมุติ)ได้จัดตั้งขึ้น โดยเชิญชวนให้บุคคลที่สนใจจ่ายเงินจำนวน 600 บาท เพื่อเป็นค่าสมัครเข้าเป็นสมาชิกกลุ่ม และสามารถข้าไปชมภาพถ่ายและภาพเคลื่อนไหวที่นายเอ็ม (นามสมมุติ)ได้บันทึกขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ถูกกระทำชำเราไว้
อีกทั้งนายเอ็ม (นามสมมุติ)ได้พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) ไปให้ผู้อื่นกระทำชำเรา ในลักษณะเดียวกันอีกหลายครั้งต่างท้องที่ ทั้ง จ.พิจิตร จ.เพชรบูรณ์ และ จ.พิษณุโลก ทำให้ น ส.เอ (นามสมมุติ) ได้รับความเสียหาย เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นที่สนใจของประชาชนและเป็นการนำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ สร้างความเสียหายแก่ผู้เสียหายเป็นอย่างมาก ทางศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตำรวจภูธรภาค 6 จึงได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีอำนาจหน้าที่สืบสวน ปราบปราม จับกุม ผู้กระทำความผิด เกี่ยวกับการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต
ดังนั้น ชุดปฏิบัติงานศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ภาค 6 ชุดปฏิบัติการกองบังคับการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้ร่วมกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิษณุโลก ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน จนขออนุมัติ หมายจับจากศาลจังหวัดพิษณุโลก ที่ จ.248/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ในฐานความผิด "เพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา ล่อลวงไป หรือพาไปเพื่อการอนาจารซึ่งชายหรือหญิง แม้ผู้นั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม"และเป็นความผิดฐาน "ผลิตมีไว้หรือเผยแพร่สื่อลามกอนาจาร เพื่อการค้า และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลใดๆที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้" จึงได้ทำการสืบสวนจับกุมนายเอ็ม (นามสมมุติ)ผู้ต้องหา ได้ที่ จ.พิจิตร และขอหมายค้นจากศาลจังหวัดพิจิตร ที่ ค.117/2563 ลงวันที่ 12 ตุลาคม 2563 ตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา เพื่อหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมในการกระทำความผิด ตาม พระราชบัญญัติค้ามนุษย์
พ.ต.อ.ภาคภูมิ ปราบศรีภูมิ ผกก.สภ.เมืองพิษณุโลก เปิดเผยว่า ทั้งนี้ ตำรวจได้ตามไปจับกุมนายเอ็ม (นามสมมุติ)ได้ที่วัดแห่งหนึ่ง ใน จ.พิจิตร หลังจากบวชได้เป็นเวลา 3 วัน และ ทำการสึกทันทีพร้อมควบคุมตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองพิษณุโลก และ ากการตรวจค้น ได้ทำการตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ จำนวน 1 เครื่องเพื่อส่งตรวจพิสูจน์การกระทำความผิดต่อไป
จากพฤติการณ์การกระทำผิดของนายเอ็ม (นามสมมุติ)จะเห็นได้ว่านอกจากความผิดที่ปรากฏตามหมายจับ แล้ว จะเห็นได้ว่ามีการกระทำที่เป็นธุระจัดหา จัดให้มีการค้าประเวณีจากการสวิงกิ้ง และเป็นผู้ถ่ายภาพผลิตสื่อลามกด้วยตนเอง โดยที่ผู้เสียหายไม่ยินยอม โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาประโยชน์รายได้ จากการนำภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง ลงลุ่มไลน์ ที่จัดตั้งขึ้นมา ซึ่งเป็นฐานความผิด "ค้ามนุษย์"
สำหรับพฤติกรรมของนายเอ็ม (นามสมมุติ)ผู้ต้องหานั้น ได้ใช้วิธีการคบหาเป็นแฟนกับผู้เสียหายก่อน โดยคบกันได้ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นได้ตั้งกล้องแอบถ่ายขณะมีเพศสัมพันธ์กับผู้เสียหาย จากนั้นได้นำคลิปตัวนั้นมาข่มขู่ บังคับ ขืนใจ ให้ตัวผู้เสียหายต้องยอมไปมีเพศสัมพันธ์แบบสวิงกิ้ง ใน 3 จังหวัด คือ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก รวมทั้งยังมีการทำร้ายร่างกายผู้เสียหายอีกด้วย เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีหลักฐานพยานแน่นหนา สามารถดำเนินคดีเอาผิดทางกฏหมายได้
นางอรนุช ชัยชาญ รักษาการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดพิจิตร กล่าวว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นครั้งแรก เนื่องพ่อของ น.ส.เอ (นามสมมุติ) นั้น ได้เห็นภาพลูกสาว ที่กลุ่มไลน์ของเพื่อน นำมาให้ดู ว่าเป็นลูกสาวตัวเองหรือไม่ ผู้เป็นพ่อ เมื่อเห็นคลิปของลูกสาว ถึงตกใจและน้ำตาไหลพราก ตอนแรกก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงได้พาลูกสาว มาขอความเป็นธรรมและร้องเรียนกับ พมจ.พิจิตร หลังจากนั้นทาง พมจ.พิจิตร ได้ประสานกับ ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต หรือ TICAC ตำรวจภูธรภาค 6 เพื่อดำเนินคดีกับนายเอ็ม (นามสมมุติ)และล่าสุดทราบว่านายเอ็ม (นามสมมุติ)ได้นำแฟนสาว มาจัดฉากสวิ้งกิ้ง ในโรงแรมแห่ง ในที่พื้นที่ จ.พิษณุโลก จึงเริ่มหาข้อมูลและหลักฐานในการออกหมายจับดำเนินคดีต่อไป ซึ่งเชื่อว่านายณัฐภัทร ก่อเหตุเช่นนี้ในพื้นที่หลายจังหวัด ทั้ง จ.นครสวรรค์ พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก มีเหยื่อที่ยังไม่กล้าออกมาแจ้งความอีกหลายราย