svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ผู้นำบราซิลติดโควิด - 19 แต่ไม่หวาดหวั่น

07 กรกฎาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ประธานาธิบดีจาอีร์ โบลโซนารู ของบราซิล ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ให้ความสำคัญกับการป้องกันการระบาดของโรคโควิด - 19 ออกมาเปิดเผยผลการทดสอบที่ชี้ว่าเขาติดเชื้อไวรัสโคโรนา หลังจากที่มีอาการของโรค ซึ่งก็รวมถึงอาการไข้

ผู้นำบราซิลเปิดเผยเรื่องนี้เมื่อวาน ระหว่างการให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ โดยบอกว่าเขาเริ่มรู้สึกป่วย มีไข้สูงและไอ เมื่อวันอาทิตย์ และอาการแย่ลงในวันจันทร์ จึงเข้ารับการทดสอบหาเชื้อโควิด-19 และรับประทานยาปฏิชีวนะ " อาซิโธรมายซิน " และยารักษาโรคมาลาเรีย "ไฮดรอกซีคลอโรควิน" ซึ่งทั้งสองตัว ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าสามารถรักษาโควิด-19 ได้
หลังกลับมาจากการตรวจเชื้อที่โรงพยาบาลในกรุงบราซิเลียเมื่อคืนวันจันทร์ เขาบอกกับผู้สนับสนุน ผ่านวิดีโอสตรีมมิ่งทางช่องยูทูบว่า ผลการทดสอบแสดงให้เห็นว่าปอดของเขา"สะอาด" และทุกอย่างปกติดี

ในการถ่ายทอดผ่านโซเชียล เน็ตเวิร์คส ของผู้นำบราซิล เมื่อวันพฤหัสบดี โบลโซนารูมีอาการไอ ในขณะนั่งถัดจากอีก 6 คน ที่ไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย ในจำนวนนี้ รวมทั้งรัฐมนตรีการพัฒนาภูมิภาค โรเจริโอ มารินโญ่ และเปรโดร กีมาเรส ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร หรือ ซีอีโอ ของธนาคารของรัฐบาล "ไคช่า เอโกโนมิก้า เฟดเดรัล" ก่อนจะไปพบปะกับสมาชิกในฝ่ายบริหารของเขาและสาธารณชนทั่วไป ทั้งยังรับประทานมื้อกลางวันกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำบราซิล เมื่อวันเสาร์อีกด้วย
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ที่โบลโซนารูเข้ารับการทดสอบหาเชื้อโควิด-19 โดยก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนมีนาคม เขาได้เข้ารับการตรวจเชื้อหลังคณะผู้ติดตามของเขาที่ไปเยือนสหรัฐฯหลายคนติดเชื้อ แต่เขาก็ยังเพิกเฉยต่อคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกและผู้เชี่ยวชาญที่ให้หลีกเลี่ยงการพบปะฝูงชน, สวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม

โบลโซนารู เป็นหนึ่งในบรรดาผู้นำโลกที่มีความข้องใจมากที่สุดกับทั้งเรื่องความรุนแรงของโรค และประสิทธิภาพของมาตรการล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการระบาด เรื่องนี้ทำให้เขามีปัญหากับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสาธารณสุขในประเทศของเขาเอง รวมถึงปฏิเสธมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเปิดเผย ปฏิเสธที่สวมหน้ากากหลายต่อหลายครั้งเมื่อต้องพบปะกับประชาชนทั่วไป และโต้แย้งว่ามาตรการล็อคดาวน์มีแต่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจได้รับความเจ็บปวด และกล่าวหาสื่อว่าเผยแพร่ความหวาดกลัวและการแตกตื่น กล่าวหามาตรการจำกัดต่าง ๆ ว่าเป็นเผด็จการ เขาเรียกโรคโควิด - 19 ว่าไข้หวัดเล็ก และบอกว่าถ้าเขาติดไวรัส ก็จะไม่มีผลกระทบต่อเขามากมายนัก เขาจะไม่รู้สึกอะไรเลย อย่างมากก็แค่มีไข้นิดหน่อย หรือหนาวนิดหน่อยเท่านั้น เพราะเขาเคยเป็นนักกีฬามาก่อน ในขณะที่ตัวเขาเองอยู่ในกลุ่มความเสี่ยงสูง เนื่องจากมีอายุ 65 ปีแล้ว
เมื่อเดือนที่แล้ว ศาลบราซิลถึงกับต้องมีคำสั่งให้เขาสวมหน้ากากและปฏิบัติตามแนวทางของรัฐบาลกลางที่วางเอาไว้ แต่ทว่าคำสั่งนี้ถูกล้มไปในการอุทธรณ์ เมื่อผู้พิพากษาวินิจฉัยว่า คำสั่งนี้ไม่มีความจำเป็น เพราะในกรุงบราซิเลีย มีคำสั่งให้ต้องสวมหน้ากากอยู่แล้ว
แต่แม้ว่าจะติดเชื้อไวรัสที่คร่าชีวิตชาวโลกไปแล้วมากกว่า 5 แสน 4 หมื่นราย ผู้นำบราซิลก็ดูจะไม่วิตกกังวลอะไร โดยเขาบอกว่า " ไม่มีเหตุผอะไรที่จะต้องกลัว ชีวิตมันก็เป็นแบบนี้ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป เขาขอขอบคุณพระเจ้าสำหรับชีวิตของเขาและบทบาทที่มีการให้กับเขา ในการกำหนดอนาคตของชาติที่ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อว่าบราซิลแห่งนี้ "
เขาบอกด้วยว่าไข้ที่เขามีตอนนี้ลดลงมาก และเขารู้สึกดีมาก ๆ ผู้นำบราซิลบอกด้วยว่าก่อนหน้านี้ เขาก็เคยคิดว่าตัวเองอาจจะติดเชื้อ เมื่อดูจากกิจกรรมของเขาที่ชอบอยู่ท่ามกลางผู้คน และไวรัสก็เหมือนกับสายฝนที่ตกลงใส่ผู้คนมากมาย และบางคน อย่างผู้สูงอายุ ต้องระวังมากเป็นพิเศษ
ขณะเดียวกัน ทางการก็จะได้ติดตามหาตัวคนที่ผู้นำได้เคยสัมผัสใกล้ชิด เนื่องจากคนเหล่านี้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงที่จะติดเชื้อไปด้วย
ด้านนายแพทย์ไมค์ ไรอัน ผู้อำนวยการบริหารองค์การอนามัยโลก ออกมาอวยพรขอให้ผู้นำบราซิลหายป่วยอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสริมว่า กรณีนี้เป็นการส่งสารมายังทุกคนว่าเราทุกคนสามารถถูกไวรัสตัวนี้โจมตีได้ ส่วนตัวแทนองค์การสาธารณสุขทั่วอเมริกา ก็ออกมาอวยพรให้ผู้นำบราซิลหายดี พร้อมกับบอกว่าไวรัสตัวนี้คาดเดาไม่ได้ มันไม่สนใจเรื่องเชื้อชาติ สีผิว หรืออำนาจของผู้คน ไม่ว่าจะมีการรักษาความปลอดภัยอยู่ล้อมรอบประธานาธิบดีคนใดก็ตาม
บราซิลเป็นหนึ่งในประเทศที่เจอกับการระบาดอย่างหนักของโลก โดยมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่า 1 ล้าน 6 แสนคน และเสียชีวิตมากกว่า 6 หมื่น 5 พันราย โดยเป็นรองก็เพียงแต่สหรัฐเท่านั้น ในขณะที่กระบวนการตรวจเชื้อก็ดำเนินไปอย่างเชื่องช้า ทำให้สงสัยกันว่าตัวเลขจริง น่าจะสูงมากกว่าที่มีการเปิดเผยออกมาอย่างเป็นทางการ

logoline