
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พิพิธภัณฑ์พระราชวังโบราณ หรือพระราชวังต้องห้าม ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงปักกิ่ง นครหลวงของจีน ได้เปิดพื้นที่บางส่วน เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวเมื่อวันศุกร์ (1 พ.ค.) ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกของวันหยุดนักขัตฤกษ์นาน 5 วัน โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจเข้าชมพิพิธภัณฑ์ จะต้องทำการจองล่วงหน้าผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งทางพิพิธภัณฑ์ฯ ได้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเอาไว้ที่ 5,000 คนต่อวัน
ทั้งนี้ พิพิธภัณฑ์พระราชวังปิดรับนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. เพื่อสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19)อนึ่ง พระราชวังต้องห้าม หรือพระราชวังกู้กง จากชื่อภาษาจีน แปลตามตัวอักษรได้ว่า "เมืองต้องห้ามสีม่วง" พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ใจกลางของกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของประเทศจีนเป็นพระราชวังหลวงมาตั้งแต่สมัยกลางราชวงศ์หมิงจนถึงราชวงศ์ชิง พระราชวังต้องห้ามยังรู้จักกันในนาม พิพิธภัณฑ์พระราชวัง ครอบคลุมพื้นที่ 720,000 ตรางเมตร หรือ 450 ไร่ มีอาคาร 980 หลัง มีห้องทั้งหมด 9,999 ห้อง และมีพระที่นั่ง 75 องค์ หอพระสมุด ห้องต่างๆ อีกจำนวนมาก รวมทั้งยังมีสวน ลานกว้าง ทางเดินเชื่อมกันโดยตลอด มีคูและกำแพงที่สูงถึง 11 เมตรล้อมรอบ ใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างประมาณ 14 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 1406 จนถึง ค.ศ. 1420
พระราชวังต้องห้ามตั้งอยู่ทางทิศเหนือของจตุรัสเทียนอันเหมิน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่พระราชวังต้องห้ามได้ทางจตุรัสนี้ โดยผ่านประตูเทียนอันเหมิน และบริเวณรอบจตุรัสเทียนอันเหมิน เรียกว่าอาณาเขตหลวง มีสิ่งก่อสร้างสำคัญโดยรอบ อาทิ มหาศาลาประชาคม ซึ่งในอดีต พระราชวังแห่งนี้ เป็นเขตหวงห้าม ไม่ไห้ประชาชนเข้า แม้ข้าราชการชั้นสูง ยังต้องขออนุญาตเป็นกรณีพิเศษ จึงเรียกพระราชวังแห่งนี้ว่า "พระราชวังต้องห้าม" โดยจักรพรรดิจะทรงประทับอยู่ในพระราชวังแห่งนี้ ปิดกั้นพระองค์จากโลกภายนอก มีสนมกำนัล ขันที และข้าหลวงรับใช้ ซึ่งคนเหล่านี้ต้องอาศัยอยู่ในนครต้องห้ามตลอดชีวิต เพื่อความสำราญของจักรพรรดิ ในวังจะมีวิเสท 6,000 คน ประกอบพระกระยาหาร มีสนมกำนัล 9,000 นาง ซึ่งมีขันที 70,000 คน คอยดูแล
ทั้งนี้ ยูเนสโก ได้ประกาศให้พระราชวังต้องห้ามร่วมกับพระราชวังเสิ่นหยาง เป็นหนึ่งในมรดกโลก ในนาม พระราชวังหลวงแห่งราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงในปักกิ่งและเสิ่นหยาง เมื่อ ค.ศ. 1987