ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากมติคณะรัฐมนตรี วันที่ 3 สิงหาคม 2553 ที่เห็นชอบให้มีนโยบายฟื้นฟูชีวิตชาวกะเหรี่ยง หรือชนเผ่าปกาเกอะญอ (ที่อยู่ในประเทศไทย) ทำให้ชาวกะเหรี่ยงได้แสดงออกถึงการมีตัวตนและทำให้ประชาชนคนไทยได้รู้จักและให้ความสำคัญต่อคนกะเหรี่ยงมากขึ้น
โดยวันนี้ (3 ส.ค.)ชนเผ่ากะเหรี่ยงในประเทศไทย ที่อยู่ใน 15 จังหวัดทั่วประเทศไทย ทั้งที่ทำงานในหน่วยงานราชการ เอกชน ประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือรับจ้างตามห้างร้านในตัวเมือง ตลอดจนถึงที่อยู่อาศัยในบนดอยพื้นที่สูงแต่ละพื้นที่ ได้ส่งเฟซบุ๊ค และไลน์ในกลุ่มกะเหรี่ยงกันเองด้วยกัน โดยได้เชิญชวนทุกท่านร่วมใส่เสื้อผ้า ประจำเผ่า เพื่อรณรงค์การอนุรักษ์อัตลักษณ์ของชนเผ่าชาวปกาเกอะญอ
ทั้งนี้ เพื่อให้สื่อให้สังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศรับทราบเกี่ยวกับเอกลักษณ์ วิถีวัฒนธรรม ประเพณี ของชาวปกาเกอะญอ ที่บรรพชนได้สร้างไว้ ให้สืบต่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมสู่รุ่นต่อรุ่น และขอเชิญชวนเฉลิมฉลองการรำลึกถึงการได้รับสิทธิที่เป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับชาวกะเหรี่ยงด้วยการใส่เสื้อผ้าชุดปกาเกอะญอ ในวันที่ 3 สิงหาคมของทุกปี เพื่อสื่อให้แก่สังคมทั่วโลกได้ทราบข่าวสารอีกด้วย
ขณะเดียวกัน ในวันนี้ได้มีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เกิดขึ้นเช่นที่ อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นอำเภอที่มีชาติพันธุ์ พี่น้องชนเผ่ากะเหรี่ยงเกือบ100% ซึ่งมีความความเชื่อและรักษาประเพณีวัฒนธรรม เช่นการแต่งกาย อาหารการกิน กิจกรรมวันนี้ ได้มีการทำบุญไหว้พระ ทำอาหารแจกกันกินในหมู่บ้าน และสอนให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ให้รับรู้ถึงเครื่องมือทำไร่ ทำนา ตลอดจน วัฒนธรรมอื่นให้คนรุ่นใหม่อนุรักษ์และต่อยอดเพื่อจะได้สืบทอดต่อไป
นอกจากนี้แต่ละจังหวัดที่ชนเผ่ากะเหรี่ยงมีถิ่นอาศัยอยู่ก็จัดกิจกรรมตามไปด้วย เช่น ที่บ้านดอกแดง อ.ฮอด อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ , อ.ปาย อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน รวมถึง อ.ท่าสองยาง อ.แม่ระมาด และ อ.แม่สอด จ.ตาก ด้วย
นายไวยิ่ง ทองบือ สมาชิกสภาชนเผ่าพื้นเมืองแห่งประเทศไทย และประธานเครือข่ายสื่อชนเผ่าพื้นเมือง เปิดเผยว่า ถือว่าเป็นมิติที่ดี สำหรับพี่น้องชนเผ่าปกาเกอะญอ ในประเทศไทย ตามที่รัฐบาลสมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มีมติครม.วันที่ 3 สิงหาคม 2553 ให้มีีนโยบายฟื้นฟูชีวิตชาวกะเหรี่ยง(ที่อยู่ในประเทศไทย)
จากนั้นเป็นต้นมาพวกเราชนเผ่ากะเหรี่ยงได้จัดกิจกรรมต่าง ๆ มาโดยตลอด เช่น นำเสนอปัญหาของชนเผ่าที่ประสบอยู่ ที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐ ระเบียบกฎหมายข้อบังคับต่าง ๆ ได้นำเสนอต่อสาธารณชนรับทราบมาเป็นระยะ ๆ เพื่อให้กระทรวง หน่วยงานที่อำนาจหน้าที่รับผิดชอบได้มาช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องกะเหรี่ยง ซึ่งปัญหาเหล่าไม่ว่าด้านสิทธิมนุษยชน ปัญหาที่ทำกิน เรื่องสัญชาติ
อย่างไรก็ตาม อยากจะให้รัฐบาลชุดปัจจุบันและรัฐบาลอนาคต ให้ความสำคัญกับมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวนี้ โดยการส่งเสริมหรือวิถีชีวิตประเพณีวัฒนธรรม ชนเผ่ากะเหรี่ยงในประเทศไทย ตามที่รัฐบาลสมัยนั้นเห็นชอบด้วย
"ปัญหาหลักที่อยากจะฝากให้รัฐบาล คือ ด้านสิทธิที่อยู่อาศัยและที่ทำกินของพี่น้องชนเผ่ากะเหรี่ยง เนื่องจากชนเผ่าเราส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ตามบนดอยพื้นที่ป่าเขา แต่ในขณะเดียวกัน กะเหรี่ยงอยู่อาศัยกับป่ามานาน และได้อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าในเชิงความเชื่อและประเพณีวัฒนธรรมของกะเหรี่ยง โดยไม่ทำลาย หรือรบกวนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจนเกินขอบเขตด้วย"นายไวยิ่ง กล่าว