
เหตุเรือโดยสารนักท่องเที่ยว ขนาด 2 ชั้่น ล่มในแม่น้ำเจ้าพระยา จ.พระนครศรีอยุธยา บริเวณหน้าวัดสนามไชย หลังบรรทุกพี่น้องชาวไทยมุสลิม ที่เดินทางไปร่วมงานบุญประเพณีของชาวไทยมุสลิม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกำลังเดินทางกลับ ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมากจากการสอบถามนายอรรณพ กุฎีพันธ์ อายุ 50 ปี เปิดเผยว่า ได้มาร่วมงานบุญประเพณีของชาวไทยอิสลาม เรียกว่า "งานโฮ้ล" เป็นงานประเพณีทำบุญครูของชาวอิสลาม ซึ่งจะจัดขึ้นเป็นประจำทุกปี ที่มัสยิดตะเกี่ยโยคิน ตำบลคลองตะเคียน ขณะเกิดเหตุตนอยู่บนเรือพร้อมชาวไทยมุสลิมเกือบ 150 คน ส่วนใหญ่เป็นสตรี โดยช่วงเช้าได้ขึ้นเรือที่ท่าน้ำมัสยิดภูเขาทอง ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมุ่งหน้าไปยังมัสยิดตะเกี่ยโยคิน เพื่อร่วมพิธี จากนั้นในช่วงบ่าย หลังจากประกอบพิธีเสร็จ ก็เดินทางกลับโดยนำพี่น้องชาวมุสลิมส่งตามจุดต่างๆ ตามริมแม่น้ำตลอดเส้นทาง ซึ่งจุดหมายปลายทางนั้น จะต้องเดินทางไปยังท่าน้ำมัสยิดภูเขาทอง และท่าน้ำโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา
ก่อนเกิดเหตุ ขณะที่เรือกำลังแล่นอยู่นั้น ได้มีเรือบรรทุกทรายแล่นอยู่ด้านหน้า ในเส้นทางเดียวกับเรือโดยสารที่ตนนั่งมา นายท้ายเรือพยายามที่จะหลบเรือบรรทุกทราย จนทำให้บังคับเรือไม่ได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรง ประกอบกับคนบนเรือมีอาการตกใจ วิ่งไปรวมกันที่ท้ายเรือ เรือจึงพุ่งชนตลิ่งและเสาเข็มที่ตอกเป็นแนวเขื่อน บริเวณหน้าวัดสนามไชย จนทำให้เรือพลิกตะแคง คนบนเรือพยายามกระโดดออกจากเรือกันอลหม่าน ไม่กี่นาทีถัดมา เรือก็ค่อยๆ จมลง ผู้โดยสารทั้งผู้หญิงและคนแก่ พากันกระโดดลงน้ำหนีตาย คนที่ว่ายน้ำเป็นก็พยายามตะเกียกตะกายขึ้นฝั่ง เนื่องจากจุดที่เรือล่มนั้น ห่างจากฝั่งประมาณ 3-5 เมตรเท่านั้นเบื้องต้น ปภ.อยุธยา รายงานว่ามีผู้เสียชีวิต 13 ราย บาดเจ็บอีกกว่า 20 คน ยังไม่ทราบจำนวนผู้สูญหาย
เจ้าหน้าที่ได้ใช้เชือกและทุ่น วางเป็นแนวป้องกันเรือจมและไหลลงไป และได้ส่งชุดประดาน้ำลงค้นหาภายในเรืออย่างละเอียด ท่ามกลางกระแสน้ำที่ไหลแรง โดยมีข้อมูลว่าผู้โดยสารส่วนใหญ่ระหว่างเกิดเหตุ ได้ไปรวมด้านท้ายเรือเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งชั้นล่างลักษณะเป็นห้องโถงโดยสารนายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวถึงเหตุเรือโดยสารบรรทุกนักท่องเที่ยวล่ม บริเวณหน้าวัดสนามไชย ว่า เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากกระแสน้ำที่เชี่ยวแรงและคนขับเรือ บังคับเรือไม่ได้ จึงกระแทกเข้ากับตลิ่ง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งนี้ สันนิษฐานว่าเรือบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวน จนทำให้เกิดเหตุโศกนาฎกรรมดังกล่าวขึ้น ซึ่งจะลงโทษขั้นสูงสุด คือ ยึดใบอนุญาต และปรับ 1 หมื่นบาท ส่วนคดีอาญาเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนของปฏิบัติการค้นหานั้น จะต้องเร่งยกเรือขึ้นเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ติดอยู่ภายในหรือไม่ด้านนายธนกร กิตติธรรมกูล ประธานชมรมเรือท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่าเรือที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเรือที่มาจากนอกพื้นที่ ทราบว่ารับผู้โดยสารมาจากตลาดขวัญนนทบุรี เป็นไปได้ว่าสาเหตุหลักคือผู้ควบคุมเรืออาจจะไม่ชำนาญร่องน้ำและพบกับกระแสน้ำแรง ส่วนเรื่องของปริมาณผู้โดยสารและความปลอดภัยเป็นเรื่องที่เจ้าท่าต้องทำการสอบสวน ในเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางชมรมเรือท่องเที่ยวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือในการประสานการกู้เรือ
รายชื่อผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เรือล่ม จ.อยุธยา (เบื้องต้น 19 ราย)
1. นางสุวิมล บุญรักษ์ อายุ 52 ปี
2.นางมาเรีย เส้นขาว อายุ 56 ปี
3.นางพยอม กลั่นผล อายุ 78 ปี
4.นายแอ๊ด คงทอง อายุ 50 ปี
5.น.ส.หญิงไทยไม่ทราบชื่อ อายุ 50 ปี
6.นางสมจิตร เส้นขาวด อายุ 52 ปี
7.นางสำราญ ใจทรัพย์ อายุ 54 ปี
8.นางหญิงไทยไม่ทราบชื่อ อายุ 50 ปี
9.ชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุ 70 ปี
10.ชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุ 25 ปี
11.น.ส.อุรุยา ขันธรักษ์ อายุ 63 ปี
12.นางหญิงไทย ไม่ทราบชื่อ อายุ 60 ปี
13.น.ส.ชนาภา มหาครุฑ อายุ 28 ปี
14.นางวราภรณ์ คล้ายสุวรรณ์ อายุ 28 ปี
15. นางละมัย กระจ่างแสง อายุ 61 ปี
16.นายเสน่ห์ แจ่มคง อายุ 76 ปี
17.นางหญิงไทยไม่ทราบชื่อ อายุ 51 ปี
18. น.ส.สรินทิพย์ หนูเอี้ยง อายุ 35 ปี
19. ด.ช.อารีซา ขันธสอน อายุ 9 ปี
เวลา 20.30 น. ทางทีมกู้ภัย ได้มีการจัดแบ่งกำลังออกเป็น 2 ชุด คือ1.ชุดเข้าตรวจสอบภายในเรือที่เกิดเหตุ และชุดที่สอง ใช้เรือตรวจการณ์ วนดูบริเวณรอบ ๆที่เกิดเหตุ โดยสถานการณ์กระแสน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา นั้น ปรากฏว่าน้ำกำลังขึ้น และไหลแรงมาก ทำให้เป็นอุปสรรคยากต่อการค้นหา เพราะเรือกู้ภัยขนาดเล็กไม่สามารถออกดำเนินการได้
นอกจากนี้บริเวณใกล้เคียงจุดเกิดเหตุได้มีการตั้งเต้นท์ วางศพผู้เสียชีวิต พร้อมกับเขียนรายชื่อผู้เสียชีวิต โดยขณะนี้ได้มีบรรดาญาติผู้เสียหายได้เดินทางมาทยอยดูรายชื่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ
สำหรับบริเวณที่เกิดเหตุชุดประดาน้ำได้สลับกันค้นหาในจุดเกิดเหตุเพื่อค้นหาร่างผู้เสียชีวิต ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมา โดยล่าสุดมีข้อมูลว่ายังมีร่างผู้เสียชีวิตติดอยู่ในเรืออีก 1 ราย แต่ยังไม่สามารถนำศพขึ้นมาได้ เพราะมีสิ่งกีดขวางอยู่
ล่าสุด เมื่อเวลา 20.51 น. ที่บริเวณจุดตั้งเต้นท์ใกล้จุดเกิดเหตุเรือล่ม จ.พระนครศรีอยุธยา ได้มีการลงรายชื่อ ผู้สูญหายจากบรรดาญาติ ๆที่เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ จำนวน 10 รายด้วยกัน ดังมีรายชื่อต่อไปนี้
1.น.ส.หทัยทิพย์ ครุฑอาชาติ อายุ 33 ปี2.น.ส.วชิรา บุญญิตา อายุ 19 ปี3.นางอนันดา บุญรัก อายุ 39 ปี4.ด.ญ.นัสริน บุญรัก อายุ 13 ปี5. นางทองใบ ขันธรักษ์ อายุ 70 ปี6.ด.ช.อธินัน แสงขำ อายุ 2 ขวบ7.ด.ช.อับดุลราวี กระจ่างแสง อายุ 4 ปี8.ด.ญ.อามีรา กระจ่างแสง อายุ 3 ขวบ9 น.ส.มัชรีณ์ รักพงษ์ อายุ 48 ปีและ 10. นางลัดดาวัลย์ ขันธรักษ์ อายุ 64 ปี
ประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผย ความคืบหน้าอุบัติเหตุเรือล่มที่บริเวณวัดสนามไชย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า เจ้าหน้าที่ชุดค้นหาได้ลงไปค้นหาภายในเรือพบมีรอยแตกและมี โต๊ะเก้าอี้กีดขวาง เป็นอุปสรรคในการค้นหาจึงได้นำขึ้นมาก่อน และส่งเจ้าหน้าหลายชุดค้นหานานหลายชั่วโมง โดยแน่ใจว่าไม่มีผู้ที่ติดอยู่ภายใต้ซากเรือแล้ว ก่อนจะนำเรือของกรมเจ้าท่า ค้นหาตามกระแส ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร คาดว่าการค้นหาจะสิ้นสุดประมาณเที่ยงคืนนี้ และจะเริ่มค้นหาอีกครั้งในช่วงเช้า
อย่างไรก็ตาม จะยังไม่เคลื่อนย้ายเรือล่ม เนื่องจากต้องรอเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจะเข้าไปตรวจสอบในช่วงเช้าก่อนมีรายงานว่า จนท.วิทยาการ พิสูจน์หลักฐาน เตรียมเข้าเก็บหลักฐานที่เกิดเหตุเรือล่ม เช้าวันจันทร์นี้ พร้อมสอบบรรทุกเกินหรือไม่ ต่อมานายอาคม เติมพิทยาไพสิฐรมต.คมนาคม เดินทางมาดูที่เกิดเหตุ และสั่งให้เร่งกู้เรือเพื่อตรวจสอบเรื่องผู้สูญหายและเสียชีวิต โดยจะประสานให้ทางเรือของเจ้าท่ามาทำการกู้ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากกระแสน้ำแรง และต้องรอประสานเรือก่อน โดยเบื้องต้นเชื่อว่าคนขับไม่มีความชำนาญร่องน้ำ จึงได้ให้ยึดใบอนุญาต และปรับ 1 หมื่นบาท ส่วนทางคดีก็ให้ดำเนินการตามกฎหมาย