เยอรมันไม่เอากฏหมายโควิด

ผู้ประท้วง ที่ใกล้ประตูเมืองแบรนเดนเบิร์ก ซึ่งเป็นแลนมาร์คที่สำคัญของกรุงเบอร์ลิน ได้ขว้างปาขวดเข้าใส่ตำรวจ และจุดระเบิดควัน ขณะที่ตำรวจปราบจลาจล ก็เข้าควบคุมตัวผู้ประท้วงบางคน ขณะที่มีการระดมฉีดน้ำจากปืนฉีดน้ำ และประกาศให้ฝูงชนสลายตัว โดยใช้เครื่องขยายเสียง
ตามรายงานของตำรวจ ระบุว่าตำรวจควบคุมตัวผู้ประท้วง 190 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ 9 นายได้รับบาดเจ็บ
ผู้ประท้วง ซึ่งในจำนวนนั้น ก็รวมถึงกลุ่มหัวรุนแรงฝ่ายขวาบางคน ได้คัดค้านการออกกฎหมายของสภาล่าง เพื่อให้อำนาจตามกฎหมายสำหรับการกำหนดขั้นตอนต่าง ๆ เช่นการควบคุมการติดต่อทางสังคม กฎเกี่ยวกับการสวมหน้ากาก การดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะ และการปิดร้าน

จุดมุ่งหมายของการแก้ไขกฏหมาย ก็คือเพื่อป้องกันการฟ้องร้องทางกฎหมาย ต่อมาตรการที่ส่วนใหญ่ถูกนำมาบังคับใช้ในระดับรัฐบาลกลางหรือระดับท้องถิ่นแล้ว
แม้ว่าชาวเยอรมันส่วนใหญ่จะปฏิบัติตามมาตรการล็อคดาวน์แบบเบา ๆ ที่ออกมาล่าสุดในการรับมือกับการระบาดของไวรัสโคโรนาระลอกที่ 2 แต่นักวิจารณ์หลายคนก็บอกว่าการแก้ไขกฏหมายดังกล่าวเป็นอันตรายต่อสิทธิพลเมือง อย่างกลุ่มขวาจัด Alternative for Germany หรือ AfD ได้เปรียบเทียบการแก้ไขกฏหมายครั้งนี้กับกฏหมายปี 2476 ที่ปูทางไปสู่การปกครองแบบเผด็จการนาซีของฮิตเลอร์
ในการประท้วง ผู้ประท้วงไม่ได้รักษาระยะห่างทางสังคมหรือสวมหน้ากากอนามัยตามที่กำหนด บางคนถือป้ายที่มีคำขวัญเช่น "หยุดการโกหกเรื่องการแพร่ระบาดของโคโรนา" และ "ไม่บังคับให้ฉีดวัคซีน"
ขณะที่นายเจนส์ สปาห์น รัฐมนตรีสาธารณสุขเยอรมนีบอกกับรัฐสภาว่า จะไม่มีใครถูกบังคับให้ฉีดวัคซีน