svasdssvasds
เนชั่นทีวี

รักษ์โลก

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

23 กุมภาพันธ์ 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ร่วมสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร "เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่" เสิร์ฟความเป็นไทยด้วย "เมนูมะยงชิด" ผลไม้ GI ของดีนครนายก เสริมไอเดียกินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ หนึ่งในผลิตผลทางการเกษตรที่สำคัญคือ “มะยงชิด” ผลไม้ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ด้วยลักษณะเด่นคือ ผลใหญ่ มีรูปร่างทรงสวยรูปไข่ สีเหลืองส้ม ภายในเนื้อแน่น ด้านนอกกรอบ มีกลิ่นหอม ให้รสชาติหวานอมเปรี้ยว ซึ่งผู้คนมักนิยมซื้อเป็นของขวัญของฝากเมื่อมีโอกาสได้มาเยือนเมืองในฝันใกล้กรุง ภูเขางาม น้ำตกสวย รวยธรรมชาติ ปราศจากมลพิษ อย่าง "จังหวัดนครนายก"

แล้วการกินอาหารตามฤดูกาล ช่วยลดโลกร้อนได้อย่างไร

ใครจะคิดว่าการกินก็ช่วยโลกได้ หนึ่งในนั้นคือเรื่อง กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน เนื่องการพืชผักผลไม้ที่มีตามฤดูกาลจะเติบโตได้ดีในสภาวะอากาศช่วงนั้น การปลูกผักผลไม้ตามฤดูกาลจึงเป็นสิ่งที่เกษตกรสามารถทำได้โดยง่าย และไม่มีความจำเป็นในการใส่ฮอร์โมน สารเคมี หรือเร่งการผลิตด้วยวิธีใด ซึ่งย่อมหมายถึงการไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ

นอกจากนี้ การกินอาหารสดตามฤดูกาลยังช่วยลดการใช้พลังงานในการแปรรูปและเก็บรักษาผักผลไม้นั้นๆ เช่น ไม่ต้องแช่เย็น หรือแช่แข็งเพื่อรักษาสภาพของอาหาร ไม่ต้องอุ่นร้อนก่อนทาน อีกทั้งการบริโภคผลิตผลทางการเกษตรในฤดูกาลยังเป็นการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหาร สนับสนุนชุมชน ลดการขนส่ง ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนั้น การให้ผลผลิตในช่วงฤดูกาลนั้นๆ ยังหมายถึงการเจริญเติบโตได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ความต้องการน้ำที่เหมาะสม จึงส่งผลให้พืชผักผลไม้มีรสชาติที่อร่อยมากกว่า จึงกล่าวได้ว่า การกินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน ทั้งยังได้กินของอร่อยอีกด้วย

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

และด้วยรสชาติที่อร่อยประกอบกับความหอมหวานอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ “มะยงชิด” จึงมักถูกนำมาทำเป็นเมนูอาหารทั้งคาวและหวาน ซึ่งที่ห้องอาหาร เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล โดย เชฟต้น-มนตรี จิรฐิติกาลกิจ ได้นำผลไม้ขึ้นชื่อของนครนายกนี้มารังสรรค์เป็นสเปเชียลเมนูจัดเสิร์ฟตลอดเดือนกุมภาพันธ์ และมีนาคม 2566

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

สำหรับเมนูแนะนำในเทศกาลมะยงชิด ได้แก่ ม้าฮ่อมะยงชิด เมนูของว่างตามตำรับอาหารไทยโบราณ ได้รสชาติหวานเค็มจากไส้ข้างใน และความเปรี้ยวอมหวานจากมะยงชิดที่เสิร์ฟมาแบบพอดีคำ เป็นจานเรียกน้ำย่อยได้เป็นอย่างดี

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

จากนั้นเพิ่มดีกรีของรสชาติด้วย ยำมะยงชิดกุ้งแม่น้ำเผา ชิมรสธรรมชาติของกุ้งแม่น้ำสดๆ ที่เชฟจะนำไปเผาจนสุกกำลังดี เสิร์ฟคู่กับมะยงชิดที่ริ้วจนเกิดลาย และนำไปปรุงด้วยน้ำยำรสจัดจ้าน สร้างมิติให้กับเนื้อสัมผัสของกุ้งแม่น้ำเผาได้อย่างน่าประทับใจ

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

ปิดท้ายด้วย มะยงชิดลอยแก้ว อีกหนึ่งเมนูของหวานสุดคลาสสิกที่จะสร้างความสดชื่นก่อนหน้าร้อนจะมาถึงอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน โดดเด่นด้วยรสชาติหวานหอมกำลังดี ผสานการได้ลิ้มรสมะยงชิดอย่างเต็มที่ นับเป็นอีกเมนูสุดพิเศษที่ได้ทานแล้วชื่นใจมากเลยทีเดียว

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

ต้องยอมรับว่าการได้มาเยือนที่เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ นอกจากจะได้อิ่มเอมกับรสชาติอาหารจานพิเศษที่เชฟต้นรังสรรค์ซึ่งนับเป็นสวรรค์ของนักชิมแล้ว ยังได้สัมผัสกับบรรยากาศการตกแต่งของห้องอาหารที่นับว่าหรูหรา ด้วยความเป็นมรดกราชวงศ์ของโรงแรม ซึ่งเดิมเป็น “วังคันธวาส” ที่ประทับของสมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร จึงสะท้อนออกมาอย่างชัดเจนในสไตล์การตกแต่ง โดยจำลองห้องที่ประทับส่วนพระองค์ มีการตกแต่งให้ทันสมัยด้วยสีสันและลวดลายที่สดใสในสไตล์ของศิลปะยุค ค.ศ. 1920-1930 ผสมผสานอย่างวิจิตรบรรจงกับงานศิลปะและผ้าไทยที่ผลิตในประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงความรักในงานศิลปะหัตถกรรมไทยของเจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์ ผู้มาเยือนยังสามารถชมทิวทัศน์ของสวนบนชั้น 3 ของโรงแรมผ่านผนังกระจกใส เลือกนั่งบริเวณระเบียงโอเพ่นแอร์ พร้อมตอบโจทย์ความเป็นส่วนตัวด้วยห้องไพรเวท

นอกเหนือจากเมนูตามฤดูกาลที่ทางห้องอาหาร เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ จะสนับสนุนผลิตภัฑณ์จากชุมชนและพี่น้องเกษตรกรแล้ว ทางโรงแรมและห้องอาหารยังมีนโยบายเพื่อความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นการใช้วัตถุดิบที่เป็นผลิตผลเพื่อความยั่งยืน (Sustainable) ดังนั้นกว่า 80% ของเมนูทั้งหมด รวมทั้งผัก ผลไม้ เครื่องเทศ สมุนไพร และข้าวจึงเป็นผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกที่คัดเลือกมาจากสวนของเกษตรกรไทยที่ทำการเพาะปลูกโดยวิถีเกษตรอินทรีย์ และยังมีสวนครัวที่ปลูกเองภายในโรงแรม โดยเชฟจะเลือกวัตถุดิบที่หายากและยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก มาปรุงอาหารไทยในรูปแบบที่ผู้มาเยือนไม่เคยได้ลิ้มลองที่ใดมาก่อน

เมนูแนะนำ อาทิ

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

เมี่ยงบัวหลวง

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

ลาบเต้าหู้

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

แกงมัสมั่นเนื้อโพนยางคำ

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

แกงปูใบชะพลู

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

ปลาเก๋าซอสมะขาม

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

ส้มฉุน

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

ขนมโคกะทิ

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

ข้าวฟ่างเปียกลำไย

กินอาหารตามฤดูกาลช่วยลดโลกร้อน สนับสนุนผลิตผลเพื่อความยั่งยืน

บัวลอยเนื้อตาล

ตามมาสัมผัสความหวานฉ่ำของผลไม้ไทยในเทศกาลมะยงชิด ที่ห้องอาหาร เดอะ เฮาส์ ออฟ สมูท เคอร์รี่ ชั้น 3 โรงแรมดิ แอทธินี โฮเทล แบงค็อก, อะ ลักซ์ชูรี คอลเล็คชั่น โฮเทล

เปิดให้บริการทุกวัน

มื้อกลางวัน เวลา 11.30 น. - 14.30 น.

มื้อค่ำ เวลา 17.30 น. - 22.00 น.

สอบถามเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า โทร : 02 650 8800

อีเมล : [email protected]

หรือเยี่ยมชมเว็บไซต์ : www.theatheneehotel.com

 

.

เรื่องและภาพ :  วารุณี มณีคำ

logoline